fbpx

ชี้ไต้ฝุ่น “แคมี” เลวร้ายเพราะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

สิงคโปร์ 29 ส.ค. – คณะนักวิทยาศาสตร์กล่าวในรายงานที่เผยแพร่วันนี้ว่า ไต้ฝุ่น แคมี (GAEMI) ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ ไต้หวันและประเทศจีนเมื่อเดือนที่แล้ว ทำลายโครงสร้างพื้นฐานและทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย มีความรุนแรงเลวร้ายอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากฝีมือของมนุษย์


นักวิจัยด้านสภาพภูมิอากาศกล่าวว่า ทะเลที่มีอุณหภูมิอุ่นขึ้นทำให้เกิด “เชื้อเพลิง” พิเศษให้กับพายุโซนร้อนที่เกิดขึ้นในทวีปเอเชีย ทำให้พายุที่เกิดขึ้นมีอันตรายมากยิ่งขึ้น ไต้ฝุ่น “แคมี” พัดกระหน่ำทั่วพื้นที่เอเชียตะวันออก เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดฝนตกมากกว่า 300 มิลลิเมตรในกรุงมะนิลา ของฟิลิปปินส์ ในระยะเวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น กระแสลมที่มีความรุนแรงถึง 232 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันอับปางนอกชายฝั่งฟิลิปปินส์และเรือสินค้าอับปางใกล้ไต้หวัน ฝนที่ตกอย่างหนักจากอิทธิพลของ “แคมี” ทำให้เกิดโคลนถล่มและมีผู้เสียชีวิตใกล้กับมณฑลหูหนานในประเทศจีน

รายงานของนักวิทยาศาสตร์จากกลุ่มเครือข่ายความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศนานาชาติ หรือ “เวิลด์ เวเธอร์ แอททริบิวชั่น” (World Weather Attribution) ที่วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกับสภาพอากาศสุดโต่ง ระบุว่า พายุ กระแสลมรุนแรงและปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ของ


พายุ “แคมี” เป็นผลมาจากการที่อุณหภูมิน้ำทะเลอุ่นกว่าเดิม นักวิจัยกล่าวว่า ในขณะที่อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะพบว่า อุณหภุมิในมหาสมุทรเพิ่มขึ้น ซึ่งกลายเป้นเชื้อเพลิงที่มีพลังให้กับพายุไซโคลน ที่ทำให้มีความรุนแรงมากกว่าเดิม ในขณะที่นักวิจัยอีกคนกล่าวว่า พายุไต้ฝุ่นมีแนวโน้มจะเกิดเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเปรียบเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม พร้อมกับเตือนว่า พายุจะเกิดขึ้นมากจนกลายเป็นปกติและมีความรุนแรงขึ้นหากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นถึง 2 องศาเซลเซียส ประเทศในเอเชียตะวันออกจะเผชิญกับสภาพอากาศสุดชั้วมากขึ้น ในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานในการป้องกันอุทกภัยและการวางแผนรับมือฉุกเฉินจะถูกกดดันอย่างหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ .-813.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ภูเก็ตฝนตกต่อเนื่อง ชาวบ้านหวั่นเขาถล่มซ้ำ

หลังจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ จ.ภูเก็ต มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่เผชิญกับน้ำท่วมขัง ขณะที่พื้นที่ ต.กะรน จุดที่เคยเกิดดินถล่ม มีผู้เสียชีวิต 13 ราย เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่อยู่อย่างผวา เพราะกลัวดินจากภูเขาจะถล่มซ้ำอีก

ช่วย 143 นักท่องเที่ยวติดเกาะราชาใหญ่ ขึ้นฝั่งภูเก็ตปลอดภัย

ศรชล.ภาค 3 ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 ส่งเรือ ต.111 ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ 143 คน ติดค้างบนเกาะราชาใหญ่ กลับเข้าฝั่ง จ.ภูเก็ต ได้อย่างปลอดภัย

น้ำในตัวเมืองหนองคายใกล้แห้ง หลังโขงพ้นวิกฤติ

หลายตำบลใน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย น้ำยังท่วมสูงและเพิ่มระดับ บางจุดถูกตัดขาดมากว่า 2 สัปดาห์ ถือว่าหนักสุดในรอบ 30 ปี ขณะที่ในตัวเมือง น้ำใกล้แห้ง หลังระดับแม่น้ำโขงใกล้พ้นจุดวิกฤติ

ภาคเหนือเร่งฟื้นฟูความเสียหาย ชาวบ้านหวั่นพายุถล่มซ้ำ

หลายพื้นที่ทางภาคเหนือยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านต้องเตรียมตัวรับกับพายุลูกใหม่ หลายคนยังไม่กล้ากลับไปอาศัยในบ้าน เพื่อรอจนกว่าพายุลูกนี้จะผ่านพ้นไปก่อน