สำนักข่าวไทย 2 ก.ย.-รองเลขากกอ.ย้ำคำสั่งคสช.ที่37/2560 ปลดล็อคให้คนนอกนั่งอธิการบดี ไม่พิจารณาอายุ แม้เกษียณก็เป็นได้ หลังศาลปกครองนครราชสีมาสั่งระงับข้าราชการเกษียณ นั่งตำแหน่งอธิการบดี
นายขจร จิตสุขุมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยถึงกรณีศาลปกครองนครราชสีมามีคำพิพากษาให้ผู้ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ไม่สามารถดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษาของรัฐได้ หลังผศ.ปัญญา เจริญพจน์ ได้ยื่นฟ้องให้เพิกถอนมติการประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่มีมติให้ รศ.มาลิณี จุโฑปะมา เป็นอธิการบดีต่อเป็นสมัยที่สอง เพราะมีอายุเกิน 60 ปี ถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือขัดต่อพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาฯ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 37/2560 ให้ “คนนอก” ที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ สามารถดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้และยังปลดล็อคให้ข้าราชการที่เกษียณอายุแล้ว สามารถดำรงตำแหน่งบริหารในมหาวิทยาลัยได้ จนหลายฝ่ายมองว่าคำสั่งคสช.ดังกล่าวไม่ศักดิ์สิทธิ์ว่า กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะคำสั่งดังกล่าวถือเป็นกฎหมาย การตัดสินครั้งนี้ศาลให้เหตุผลว่า คำสั่งระบุเพียงว่า สภามหาวิทยาลัยสามารถแต่งตั้งคนนอกที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ มาดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ แต่ไม่ได้ระบุเรื่องอายุเอาไว้ ฉะนั้นคุณสมบัติเรื่องอายุ จึงต้องเป็นไปตามกฎหมายเดิม คือผู้ที่อายุเกิน 60 ปี ไม่สามารถดำรงตำแหน่งอธิการบดี หรือผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่เป็นส่วนราชการได้นั้น
ทั้งนี้ คำสั่งของคสช.ระบุชัดว่าคนที่จะเป็นต้องอธิการบดี ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการก็ได้ ในเมื่อไม่เป็นข้าราชการ อายุจึงไม่เป็นปัจจัยในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นอธิการบดี อีกทั้งกฎหมายของสถาบันอุดมศึกษาก็ไม่ได้กำหนดอายุของผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีด้วย แต่เรื่องนี้หากฝ่ายที่ถูกฟ้องร้องรู้สึกไม่เป็นธรรม ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าศาลอื่นๆจะยึดคำพิพากษาเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาคดีในลักษณะเดียวกันหรือไม่ มองว่าไม่ถือเป็นบรรทัดฐาน เพราะคำตัดสินดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด และขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละศาลไป.-สำนักข่าวไทย