ชวนนายกฯ คาซัคสถาน จับมือประเทศขนาดกลางสู้วิกฤตเศรษฐกิจ

คาซัคสถาน 15 ส.ค.- “ภูมิธรรม” นำทีมพาณิชย์ หารือนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน ประกาศเดินหน้าร่วมมือการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกัน ย้ำไทยให้ความสำคัญกับคาซัคสถานในฐานะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ พร้อมร่วมมือทุกด้าน แจ้งมีกำหนดลงนามความร่วมมือเศรษฐกิจและการค้า เปิดทางร่วมมือสาขาต่าง ๆ มีแผนเปิดสำนักงานทูตพาณิชย์ ขับเคลื่อนการค้า พร้อมชวนผู้ประกอบการคาซัคสถานร่วมงานแสดงสินค้าในไทย จัดเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจ ขยายโอกาสค้าขายระหว่างกัน รับปากคาซัคสถาน ดูเรื่องตั้งสถานกงสุล การนำเข้าเนื้อสัตว์ ทำ MOU ร่วมมือเกษตร และความตกลงภาษีซ้อน


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายออลจัส เบคเตนอฟ (Mr. Olzhas Bektenov) นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ตนได้แจ้งกับนายกรัฐมนตรีคาซัคสถานว่าไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของสาธารณรัฐคาซัคสถาน ในฐานะประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพและเป็น Gateway ในการผลักดันสินค้าไทยไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียกลาง และประเทศในกลุ่มสมาชิกเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) จึงได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเยือน นอกจากเพื่อการลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทย-คาซัคสถานแล้ว ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจตลาดและโอกาสของสินค้าไทย รวมถึงประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและธุรกิจบริการไทยในตลาดคาซัคสถาน ตลอดจนเพื่อรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางที่เหมาะสมในการขนส่งและกระจายสินค้าไทยไปยังตลาดคาซัคสถานและภูมิภาคเอเชียกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความท้าทายและข้อจำกัดในการขนส่งสินค้า เนื่องจากเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล อีกทั้งการเดินทางมาเยือนครั้งนี้นับเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจของไทยกับคาซัคสถานในรอบ 17 ปี

ทั้งนี้ ได้แจ้งนายกรัฐมนตรีคาซัคสถานว่าในการมาเยือนครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดการลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยและคาซัคสถาน (Agreement on Trade and Economic Cooperation between Thailand and Kazakhstan) กับนายอาร์มัน ชักคาลีเยฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและบูรณาการ และจะพบหารือกับ ดร.มิรกาลี คูนาเยฟ กงสุลกิติมศักดิ์ของไทยแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน เพื่อหารือเกี่ยวกับลู่ทางในการขยายการค้าระหว่างสองประเทศ รวมถึงการเปิดสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ในสาธารณรัฐคาซัคสถาน เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคีและมูลค่าการค้าระหว่างกัน และได้ขอถือโอกาสนี้ รับทราบทิศทางและนโยบายด้านเศรษฐกิจการค้าของรัฐบาลสาธารณรัฐคาซัคสถานจากท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบการกำหนดนโยบายส่งเสริมการค้าระหว่างไทยกับสาธารณรัฐคาซัคสถานต่อไป


ขณะเดียวกัน ได้นำเสนอว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าร่วมกัน ขอเชิญชวนผู้ประกอบการคาซัคสถานเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี อาทิ งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair (9-13 ก.ย.67), THAIFEX-HOREC Asia (5-7 มี.ค.68), STYLE Bangkok (2-6 เม.ย.68) และTHAIFEX-ANUGA ASIA (27-31 พ.ค.68) เป็นต้น ตลอดจนการเข้าร่วมกิจกรรม Online Business Matching (OBM) ซึ่งหากผู้ประกอบการคาซัคสถานสนใจเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยในสินค้าใด โดยเฉพาะสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมียม ที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดคาซัคสถาน ก็สามารถแจ้งมายังกระทรวงพาณิชย์ได้

“ได้แจ้งท่านนายกรัฐมนตรีคาซัคสถานว่า การจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจไทย-คาซัคสถาน จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าในสาขาต่าง ๆ ส่วนการส่งเสริมให้เอกชนเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดโดยแต่ละฝ่าย เช่น งานแสดงสินค้า การจับคู่ธุรกิจออนไลน์ จะเพิ่มโอกาสทางการค้าระหว่างกัน ซึ่งเดิม ทูตพาณิชย์ที่รัสเซียดูแลอยู่ แต่เร็ว ๆ นี้ มีแผนที่จะเปิดสำนักงานทูตพาณิชย์ในคาซัคสถานด้วย ก็ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีช่วยสนับสนุน และไทยได้เริ่มมีการเจรจาเพื่อจัด ทำ FTA กับ EAEU จึงขอการสนับสนุนจากคาซัคสถานในเรื่องนี้ด้วย ขณะที่การท่องเที่ยว สองฝ่ายได้มีการลงนามการยกเว้นวีซ่าตั้งแต่เดือน เม.ย.2567 ก็หวังว่าจะมีการท่องเที่ยวของสองฝ่ายเพิ่มขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจทั้งสองฝ่าย” นายภูมิธรรม กล่าว

อย่างไรก็ตาม คาซัคสถาน ได้หารือถึงการขออนุญาตจัดตั้งสถานกงสุลคาซัคสถานในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งตนเห็นว่าจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น และช่วยอำนวยสะดวกชาวคาซัคสถานที่มาท่องเที่ยวในไทย โดยจะประสานกระทรวงการต่างประเทศเพื่อติดตามความคืบหน้าต่อไป ส่วนการพิจารณาคำขออนุญาตนำเข้าสินค้าเนื้อสัตว์ของคาซัคสถาน ทราบว่ากรมปศุสัตว์อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขออนุญาตการนำเข้าสินค้าเนื้อโคของฝ่ายคาซัคสถาน จำนวน 10 บริษัท ซึ่งจะช่วยเร่งรัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาและแจ้งให้ฝ่ายคาซัคสถานทราบ และการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐคาซัคสถาน กำลังรอความเห็นจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย โดยมั่นใจว่าหากมีการลงนามกันได้ จะข่วยเพิ่มความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกันมากขึ้น และการรื้อฟื้นการหารือเพื่อจัดทำความตกลงภาษีซ้อนระหว่างไทยและคาซัคสถาน กรมสรรพากรกำลังพิจารณา หากสำเร็จ จะช่วยลดการเก็บภาษีซ้ำซ้อนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ระหว่างประเทศ รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและหลีกเลี่ยงการเสียภาษีระหว่างประเทศของทั้งฝ่าย นอกจากนี้ตนได้นำสินค้าของผู้ประกอบการต่างจังหวัดจากประเทศไทย อาทิ ลำไยสดลำพูน ผ้าพันคอย้อมครามสกลนคร ผ้าขาวม้าหนองบัวลำภู มาฝากท่านนายกรัฐมนตรีให้รู้จักสินค้าไทยมากขึ้นด้วย


สำหรับการค้าระหว่างไทยกับสาธารณรัฐคาซัคสถาน แม้จะยังไม่มากนัก เมื่อเทียบกับคู่ค้าสำคัญของไทยในปัจจุบัน แต่ก็มีศักยภาพและแนวโน้มการขยายตัวได้ในอนาคต โดยในปี 2566 คาซัคสถานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 90 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 171.79 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 26.28 เป็นต้น. -514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน