fbpx

เข้มเฝ้าเกาะติดเรือขนตู้สารพิษลอบเทียบ “ท่าเรือแหลมฉบัง”

กรุงเทพ 14 ส.ค. – “มนพร” มอบหมาย “การท่าเรือฯ” เข้มเฝ้าเกาะติดเรือขนตู้สารพิษลักลอบเทียบ “ท่าเรือแหลมฉบัง” กำชับความปลอดภัย-ความมั่นคง ยึดระเบียบและข้อกฎหมาย ด้าน กทท. สั่ง “แหลมฉบัง” ยกระดับเฝ้าระวัง ส่วนตัวแทนสายเรือ ยันไม่มีเส้นทางการเดินเรือประจำในไทย


จากการรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศ ระบุว่ามีเรือบรรทุกสารพิษ จำนวน 2 ลำ ขนสารพิษประเภทฝุ่นเกิดจากกระบวนการผลิตเหล็กด้วยเตาอิเล็กทริกอาร์กเฟอร์เนซ กว่า 100 ตู้ จากประเทศอัลบาเนีย มุ่งหน้าเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 นั้น นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมอบหมายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ในฐานะกำกับดูแลท่าเรือแหลมฉบัง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อตรวจสอบ และป้องกันการลักลอบการนำสารพิษเข้ามายังประเทศไทยในทุกช่องทาง อีกทั้งได้กำชับให้ กทท.ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัย และความมั่นคงของประเทศชาติ โดยยึดระเบียบ และกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ด้านนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่าเรือฯ ได้รับข้อสั่งการจากท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยติดตามเรื่องเรือบรรทุกสารพิษที่มีปลายทางเทียบท่าเรือแหลมฉบังอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานราชการต่างๆ อาทิ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมศุลกากร ฯลฯ


ทั้งนี้ ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากตัวแทนสายเรือว่าเรือทั้ง 2 ลำ เป็นเรือในเครือของ Maersk Campton ที่จดทะเบียนในธงอังกฤษ และไม่ได้เป็นของ Maersk แต่เป็นเรือที่ได้รับสัญญาเช่าในนาม Maersk เพื่อขนส่งสินค้า โดยไม่มีเส้นทางการเดินเรือประจำในประเทศไทย จึงไม่ได้มีกำหนดเข้าประเทศไทย และพบว่าเรือที่เป็นข่าวลำแรกอยู่ในบริเวณทะเลฝั่งทวีปแอฟริกา และเรืออีกลำอยู่ระหว่างเดินทางไปประเทศสิงคโปร์

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ท่าเรือแหลมฉบังเกาะติดสถานการณ์ พร้อมยกระดับการเฝ้าระวัง และประสานงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อความไม่ประมาท และป้องกันการลักลอบนำสารพิษเข้ามาในประเทศไทย โดยเป็นไปตามระเบียบ การท่าเรือฯ ว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับสินค้าอันตรายของท่าเรือแหลมฉบัง พ.ศ.2559 ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบเอกสารล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ก่อนเรือสินค้าเทียบท่า นอกจากนี้ยังมีการประสานร่วมกับสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังเพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบหากมีการนำเข้าตู้สินค้าดังกล่าว.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด