จับบาร์ที่เกาะเต่าลอบขายแก๊สหัวเราะ

14 ส.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง จับบาร์แห่งหนึ่งในเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ลอบขายแก๊สหัวเราะ เตือนใช้ในทางที่ผิดอันตรายถึงชีวิต


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) และตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม น.ส.วรรณศิริ อายุ 33 ปี ในข้อหา ผลิตและขายยาแผนปัจจุบัน อันเป็นยาอันตราย (แก๊สหัวเราะหรือไนตรัสออกไซด์) โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางลูกโป่งกลม สีม่วง ขนาด 10 นิ้ว ที่ใช้แล้ว จำนวน 14 ใบ, ลูกโป่งกลม สีชมพู ขนาด 10 นิ้ว บรรจุอยู่ในหีบห่อเป็นถุงพลาสติกไม่มีรอยฉีก จำนวน 120 ใบ, ตั๋วสำหรับแลกลูกโป่ง จำนวน 38 ใบ, เงินสด 500 บาท, ถังแก๊สสีน้ำเงินทรงสูงเปิดใช้แล้ว จำนวน 1 ถัง และถังแก๊สสีน้ำเงินทรงสูงเปิดใช้แล้ว จำนวน 2 ถัง (ถังเปล่า) โดยจับกุมได้ที่บาร์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี

สืบเนื่องจากตำรวจได้กวดขันการจำหน่ายแก๊สไนตรัสออกไซด์ (แก๊สหัวเราะ) เนื่องจากแก๊สดังกล่าวเป็นแก๊สที่ใช้ทางการแพทย์ หากไปใช้ในทางที่ผิดสูดดมเพื่อให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มในปริมาณมาก อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน หมดสติ และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เจ้าหน้าที่จึงออกประชาสัมพันธ์สถานบันเทิงในพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยห้ามไม่ให้จำหน่ายแก๊สหัวเราะให้นักท่องเที่ยวอย่างเด็ดขาด


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า บาร์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน ได้ลักลอบจำหน่ายแก๊สไนตรัสออกไซด์ให้นักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบภายในร้านพบนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มหนึ่งกำลังสูบแก๊สจากลูกโป่ง จากการตรวจสอบพบว่า ภายในลูกโป่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังสูบเป็นแก๊สในตรัสออกไซด์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกับสาธารณสุข จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าแสดงตัวและเข้าจับกุม น.ส.วรรณศิริ (เจ้าของร้าน) ได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง มาทำบันทึกการจับกุมและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะเต่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

น.ส.วรรณศิริ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าได้จำหน่ายแก๊สไนตรัสออกไซด์บรรจุลูกโป่งแก่นักท่องเที่ยวจริง โดยจำหน่ายในราคาใบละ 80 บาท หรือ 3 ใบ 200 บาท โดยได้จำหน่ายในร้านที่เกิดเหตุ และมีที่นั่งบริการให้นักท่องเที่ยวสูบลูกโป่งบรรจุแก๊สไนตรัสออกไซด์ภายในร้าน โดยได้เริ่มจำหน่ายลูกโป่งบรรจุแก๊สไนตรัสออกไซด์ให้แก่นักท่องเที่ยวมาตั้งแต่ 6 เดือนก่อนหน้านี้

สำหรับแก๊สไนตรัสออกไซด์ (แก๊สหัวเราะ) มีผลกระทบหากสูดดมแก๊สดังกล่าวมากเกินไปหรือต่อเนื่องเป็นประจำ จะทำให้มีความผิดปกติต่อระบบประสาท กล้ามเนื้ออ่อนแรง เนื่องจากแก๊สจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของวิตามินบี 12 หากสูดดมบ่อยเป็นเวลานาน ร่างกายจะขาดออกซิเจน อันตรายถึงชีวิตได้.- 419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในภาคเหนือ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อน และมีฝนฟ้าคะนอง 20%

ทลายเครือข่ายเบิกงบซ่อมรถทิพย์ ทุจริตงบ กทม.

คดีการจับกุม 7 เจ้าหน้าที่กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันทุจริตปลอมใบเสนอราคาเบิกเงินซ่อมรถบัส ในชั้นสอบสวนได้ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัวไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม หลังตำรวจออกมาเผยว่ามีความเกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่ถูกตรวจสอบไปก่อนหน้านี้

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ