‘วิโรจน์’ จับตาความคืบหน้า ‘ตั๋ว P/N’ 9 ฉบับ

อาคารอนาคตใหม่ 21 เม.ย.- ‘วิโรจน์’ เผย แผนยุทธการโรยเกลือ หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘แพทองธาร’ จับตาความคืบหน้า ‘ตั๋ว P/N’ 9 ฉบับ หวัง คกก.ภาษีอากร วินิจฉัยตามหลักสากล-จี้ ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ เร่ง เพิกถอนโฉนด 4 แปลง ‘โรงแรมเทมส์วัลลีย์ เขาใหญ่’-มอบหมาย ‘โรม’ เดินหน้าเอาผิดปม ‘ชั้น 14’ ยืนยัน ‘ปชน.’ ไม่ใช้กลไกสอบจริยธรรม เหตุบ้านเมืองจะติดอยู่ในวังวนนิติสงคราม แนะ ควรมีหิริโอตัปปะสำนึกผิดลาออกเอง


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงการดำเนินการภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งทางด้านกฎหมาย และกระบวนการต่างๆ ว่า เมื่อพวกเราหารือกันแล้ว จะมีการดำเนินการ 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1.กรณีที่นายกรัฐมนตรี ใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋ว P/N จำนวน 9 ฉบับ โดยที่ไม่มีการกำหนดการชำระเงิน และไม่มีดอกเบี้ย สร้างกระบวนการให้ดูเสมือนว่า เป็นการซื้อหุ้นจากคนในครอบครัวและเครือญาติ ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นเจตนาที่แท้จริงที่จะหลีกเลี่ยงชำระภาษีการรับให้

หากพิจารณาด้วยความสุจริต พฤติการณ์ในลักษณะนี้ ประชาชนทุกคนคงเข้าใจได้ว่า น่าจะเป็นการทำนิติกรรมอำพราง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้นำของประเทศ และเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐด้วย


นายวิโรจน์ ยืนยันว่า กรณีข้างต้นตรวจสอบได้ไม่ยาก ซึ่งหลายๆ อย่าง ก็จะเป็นพยานหลักฐาน ที่สามารถบ่งชี้ได้ว่า นายกรัฐมนตรีมีเจตนาในการซื้อหุ้นจริง หรือเป็นเพียงการจัดฉาก เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเท่านั้น

พรรคประชาชน เชื่อว่า หากคณะกรรมการ วินิจฉัยภาษีอากร พิจารณาเรื่องนี้ ด้วยความสุจริต และกล้าหาญ ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยวินิจฉัยสอดคล้องกับหลักสากล พฤติกรรมดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี จะ เป็นการทำนิติกรรมอำพราง เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี และคงจะต้องมีการติดตามให้มีการชำระภาษีย้อนหลัง รวมถึงต้องมีการดำเนินการแจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการไต่สวนในอีก 2 ประเด็นต่อไป และเราจะดำเนินการภายหลังคณะกรรมการภาษีอากรวินิจฉัยแล้วเสร็จ ทั้งเรื่องทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 172 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ป.ป.ช. และการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินโดยมีข้อความอันเป็นเท็จ ตามมาตรา 167 ของ พ.ร.ป.ป.ป.ช. เพื่อให้มีการไต่สวนและชี้มูลความผิดนายกรัฐมนตรีต่อไป

และหากคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรมีผลคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่า พฤติกรรมของนายกรัฐมนตรีเป็นการหลบเลี่ยงภาษี เราจะดำเนินการกับ ป.ป.ช. ในกรณีประพฤติมิชอบต่อไป ซึ่งก็ต้องดูว่า จะดำเนินการแบบคู่ขนานได้หรือไม่ หรือต้องรอผลวินิจฉัยของคณะกรรมการภาษีอากรก่อน


2.กรณีโฉนด 4 แปลงซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมเทมส์วัลลีย์ เขาใหญ่ เรายืนยันว่า พื้นที่นี้ ยังคงสถานะเป็นพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) สงวนไว้ เพื่อการรักษาทรัพยากรธร เป็นต้นน้ำลำธาร ซึ่งห้ามออกโฉนดโดยเด็ดขาด ตามข้อ 14(5) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 43 ที่ออกตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 รวมถึงมติ ครม.ที่อนุญาตให้ครอบครองเพื่อทำประโยชน์ แต่ไม่ใช่ให้กรรมสิทธิ์แต่อย่างใด จึงเป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ที่ตั้งของโรงแรมเป็นการออกโฉนด โดยคลาดเคลื่อน หรือมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้ง 4 ฉบับ ซึ่งพรรคประชาชนได้มีการยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมที่ดิน เพื่อดำเนินการเพิกถอนโฉนดดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเราจะติดตามกรณีนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป

โดยขณะนี้ ยังไม่มีการร้องต่อ ป.ป.ช. แต่จะแกะรอยต่อว่า หากพบร่องรอยที่มีการสั่งการ หรือประพฤติมิชอบ จะดำเนินการต่อ ป.ป.ช.ตามกฎหมายต่อไป

3.ข้อสงสัยต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ว่าได้รับอภิสิทธิ์เหนือผู้ต้องขังรายอื่น อันเป็นหลักการทำลายหลักนิติรัฐ ซึ่งกำหนดให้ประชาชนทุกคนต้องมีความเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย และต้องอยู่ภายใต้บรรทัดฐานเดียวกันในการบังคับใช้กฎหมายของประเทศ และในฐานะนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ จะต้องทราบถึงข้อเท็จจริงของอาการเจ็บป่วย รวมถึงการได้รับสิทธิ์ หรืออภิสิทธิ์ใดๆ ของผู้เป็นบิดาอย่างชัดเจนตั้งแต่แรก

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เมื่อสังคมมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ การตั้งข้อสงสัย ที่สะท้อนถึงความไม่สมเหตุสมผลต่างๆ ความไม่สอดคล้องของบริบทโดยรอบ ในการได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลของนายทักษิณ ตลอดจนความลักลั่นของการได้รับสิทธิของผู้ต้องขังรายอื่น นายกรัฐมนตรีแทนที่จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และชี้แจงต่อสาธารณะด้วยความสุจริตโปร่งใส กลับบ่ายเบี่ยงซ่อนเร้นและอำพรางข้อเท็จจริง ทั้งยังปล่อยให้ความคลุมเครือยังคงดำรงอยู่ถึงปัจจุบัน บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อหลักนิติรัฐ และหลักความเสมอภาคกันของกฎหมาย

ดังนั้น พฤติกรรมดังกล่าวนี้ พวกเราได้พินิจพิเคราะห์แล้วว่า เข้าข่ายการกระทำความผิดตามมาตรา 172 ของ พ.ร.ป.ป.ป.ช. และกระทำความผิดตามมาตรา 11(1) ของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

โดยพรรคประชาชน ได้มอบหมายให้รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ดำเนินการร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการไต่สวนและชี้มูลความผิดนายกรัฐมนตรีต่อไป และหากรายละเอียดครบถ้วน ก็จะมีการยื่นภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่เกินสัปดาห์หน้า

นายวิโรจน์ กล่าวถึงข้อเรียกร้องที่ต้องการให้พรรคประชาชน ใช้กลไกด้านจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เป็นเครื่องมือในการจัดการกับนายกรัฐมนตรี ทั้งการเข้าชื่อกัน เพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 70 วรรค 1(4) เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมาตรา 160(4) ซึ่งว่าด้วยพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันมีลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(5) รวมถึงข้อเสนอที่พรรคประชาชนจะดำเนินการตามมาตรา 235(1) ประกอบมาตรา 234(1) ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ ป.ป.ช. ไต่สวนกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพื่อส่งเรื่องให้กับศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไป

พรรคประชาชน อยากชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาว่า เรื่องจริยธรรมบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ และยังแบกรับหน้าที่และความรับผิดชอบทางสาธารณะในระดับที่สูง หากถูกสังคมและประชาชน ตั้งคำถามถึงความมีจริยธรรมอย่างต่อเนื่อง และไม่อาจชี้แจงข้อเท็จจริงได้จนสิ้นข้อสงสัย นายกรัฐมนตรีควรต้องมีหิริโอตัปปะ มีความสำนึกในตัวเอง พิจารณาความเหมาะสมของตัวเอง และแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณรณะด้วยการลาออกโดยสมัครใจ ไม่จำเป็นต้องให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นมรดกบาปของการทำรัฐประหาร ขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย และไม่มีการยึดโยงต่อเจตจำนงของประชาชน มาเป็นผู้ชี้นิ้วไล่ให้ออกจากตำแหน่ง เพราะจะเป็นการทำลายเกียรติภูมิของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยอย่างไม่อาจประเมินค่าได้

“การใช้ผ้าที่สกปรกถูกบ้าน ไม่อาจทำให้บ้านสะอาดขึ้นมาได้ การทำน้ำเน่าไล่น้ำเสีย ไม่อาจทำให้น้ำในคูคลองใสสะอาด พรรคประชาชน ยืนยันว่า เราจะไม่ใช้กลไกที่เราไม่ยอมรับความชอบธรรม ในการจัดการกับสิ่งที่ไม่ชอบธรรมอย่างเด็ดขาด เพราะหากเราทำเช่นนั้น บ้านเมืองก็จะติดอยู่ในวังวนนิติสงครามที่คณะรัฐประหาร ได้วางหลุมพรางเอาไว้ และประเทศชาติจะไม่สามารถกลับคืนสู่ความเป็นนิติรัฐได้อีกเลย” นายวิโรจน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าบุคคลที่ดำรงนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่ถืออำนาจรัฐในระดับสูง และเป็นประมุขของฝ่ายบริหารของประเทศ เมื่อพบช่องว่างทางกฎหมาย ที่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นธรรมต่อสังคมได้ ย่อมต้องมีหน้าที่ปิดช่องว่างทางกฎหมายนั้น มิใช่ฉกฉวยโอกาสในวางแสวงหา ผลประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมายนั้นเสียเอง

“เรายังคงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี สำนึกในความดีความชั่วของตน และแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ในขณะที่ยังสามารถรักษาเกียรติภูมิของตำแหน่งผู้นำประเทศเอาไว้ได้ โดยไม่ต้องรอให้กลุ่มบุคคลใดมาชี้หน้า ว่าท่านไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จนต้องถูกไล่ออก เหมือนทรชนที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย” นายวิโรจน์ ทิ้งท้าย

นายวิโรจน์ ย้ำว่า พรรคประชาชนจะใช้กลไกของ ป.ป.ช. และหน่วยงานราชการ อาทิ กรมสรรพากร และกรมที่ดิน ในการวินิจฉัยให้เกิดความเป็นธรรม และหากพบความทุจริตหรือความไม่ถูกต้องเกิดขึ้น จะใช้กลไกของ ป.ป.ช.ดำเนินการกับนายกรัฐมนตรี

“หลายคนบอกว่า ทำไมเราไม่ใช้หอกทมิฬแทงทมิฬ ทำไมเราไม่เอาให้สุดซอย อย่าไปสนใจวิธีการเลย จะจัดการกับใครทำไมต้องสนใจวิธีการ เราคิดอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าเราจัดการกับคนโดยที่ไม่สนใจวิธีการเลย เราก็ไม่แตกต่างจากคนเหล่านั้น” นายวิโรจน์ กล่าว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]