กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลปฏิบัติการ “ปราบรถเถื่อนวิ่งเกลื่อนเมือง” ทลายขบวนการปลอมป้ายรถเถื่อน สวมทะเบียนปลอม ตำรวจบอกพบป้ายทะเบียน 1 ป้าย ถูกนำไปสวมรถมากถึง 26 คัน
พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก แถลงปฏิบัติการ “ปราบรถเถื่อนวิ่งเกลื่อนเมือง” ตรวจยึดรถของกลางทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สวมป้ายทะเบียน 23 คัน รวมถึงพบแผ่นป้ายทะเบียนเถื่อนอีกจำนวนมาก
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการกระทำผิดโดยใช้ป้ายทะเบียนปลอมอำพรางขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ อาทิ ส่งยา ขนต่างด้าว ขนอาวุธ จึงขยายผลไปยังเครือข่ายที่ลักลอบสวมป้ายทะเบียน ป้ายภาษี และคู่มือการจดทะเบียน ก่อนเข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเลย ทำให้พบเลขทะเบียน ข้อมูลป้ายภาษี ข้อมูลยี่ห้อรถยนต์ ข้อมูลตัวถังรถยนต์ ที่กระทำผิดมากกว่า 2,000 รายการ และผู้กระทำผิดยอมรับปลอมเอกสารและทุกอย่างขึ้นมา เพื่อส่งไปให้ลูกค้าที่สั่งซื้อโดยเฉพาะ แต่จะพยายามใช้เลขทะเบียนที่ส่วนใหญ่เป็นเลขว่าง ไม่มีในระบบของกรมขนส่งทางบก
การตรวจสอบจากบรรดาข้อมูลกว่า 2,000 รายการกับฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก กลับพบว่ามีทะเบียนปลอมขึ้นมาเป็นป้ายเปล่าจำนวนมาก และไม่ผ่านการออกเลขหรือจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ที่สำคัญหนึ่งในทะเบียนรถที่ตรวจสอบพบว่าถูกนำไปใช้กับรถยนต์มากถึง 26 คัน และทั้งหมดไม่ใช่เจ้าของคนเดียวกัน ทำให้ทะเบียนเลขนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผลและติดตามตัวผู้ครอบครองมาดำเนินคดี
ขณะเดียวกันการตรวจสอบยังพบอีกว่ารถยนต์ส่วนใหญ่มีเจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นบริษัทไฟแนนซ์ โดยผู้ครอบครองจะเช่าซื้อจากบริษัทไฟแนนซ์ และนำรถไปจำนำ ซึ่งบางส่วนตั้งใจจะขาย รวมถึงถูกเชิดรถหนีไปขาย โดยที่ผู้ซื้อที่ไม่รู้ว่าเป็นรถหลุดจำนำจะถูกย้อมแมวขาย แต่ก็มีที่ผู้ซื้อบางรายรู้อยู่แล้วว่าเป็นรถหลุดจำนำ จึงโอนลอยไว้ เพราะอยากได้รถราคาถูก หรือหนักกว่านั้นคือเอาไปทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ย้ำเตือนหากใครรู้ว่าป้ายปลอมแต่ยังใช้ จะเข้าข่ายกระทำความผิดฐานใช้ป้ายทะเบียนปลอม มีโทษปรับ 2,000 บาท และฐานปลอมเอกสารราชการ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท.-สำนักข่าวไทย