นนทบุรี 19 ก.ค. – แหล่งข่าวจากพาณิชย์แจ้งผลต่อรองราคาข้าวสารค้างเก่า 10 ปี สรุปได้บริษัททรัพย์แสงทอง ไรซ์ จำกัด จ.สุพรรณบุรี และสหธัญ จังหวัดนครปฐมชนะประมูลให้ราคาดีรวมถึง 244 ล้านบาท แม้ต่ำกว่าบริษัทวีเอทฯ แต่บริษัทมีความน่าเชื่อถืออยู่ยาวนานมั่นคง พร้อมแจ้งให้บริษัททราบผลวันนี้ ขณะที่ “ภูมิธรรม” เตรียมปรับองค์กร อคส.ใหม่ หลังเจอรากประมูลข้าวเกินเหตุ
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ขณะนี้ผลการต่อรองราคาข้าวสารค้างเก่า 10 ปีกับบริษัทที่ไม่มีปัญหาด้านคุณสมบัติเสร็จสิ้นแล้ว โดยบริษัททรัพย์แสงทอง ไรซ์ จำกัด จ.สุพรรณบุรี และบริษัท สหธัญ จังหวัดนครปฐม โดยแบ่งเป็น 2 คลังที่ทางบริษัททรัพย์แสงทอง ไรซ์ ได้ข้าวสารจำนวนกว่า 11,000 ตัน ที่ให้ราคาจากเดิม 15 บาท/กก. เป็น 18 บาท/กก. ขณะที่อีก 1 คลังกว่า 4,000 ตัน ทางบริษัท สหธัญ ได้ไปที่เสนอครั้งแรกกว่า 18 บาท/กก. จึงเป็นยอดวงเงินรวมกว่า 244 ล้านบาท แม้ว่าจะเป็นราคาต่ำกว่ารายแรก คือ บริษัท วี เอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัดที่ให้ราคาสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 19.07 บาท/กก. หรือเป็นวงเงินรวมกว่า 286 ล้านบาทก็ตาม โดยคาดว่าภายในวันนี้ (19 ก.ค.) องค์การคลังสินค้า (อคส.) จะออกหนังสือแจ้งบริษัทผู้ชนะประมูล และในวันที่ 23 ก.ค.67 ผู้ชนะประมูลเข้ามาทำสัญญาและวางหลักประกันสัญญา 5% (ภายใน 15 วัน) และระหว่างวันที่ 15 ส.ค.-13 ก.ย.67 ชำระเงินและรับมอบข้าวตา
สัญญาซื้อขายข้าวในครั้งนี้ โดยเห็นว่าทั้ง 2 ราย มีคุณสมบัติพร้อมมีประสบการณ์ค้าข้าวมานานและเหมาะสมที่จะชนะประมูลข้าวล็อตนี้ไป
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้แม้ว่าผลการเจรจาออกมาว่าได้ผู้ชนะประมูลข้าวสารค้างเก่า 10 ปีได้เป็นที่เรียบร้อย แต่ก็มีการพูดถึงและตั้งข้อสังเกตุของการทำงานของ อคส.ที่ทำงานล่าช้าและไม่เป็นที่น่าพอใจของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และในฐานะกำกับดูแล อคส.ด้วยตนเองอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ที่กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางที่จะระบายข้าวสารสตอกค้างเก่านี้ และมอบหมายให้ อคส.ไปดำเนินตั้งแต่ประกาศเชิญชวนเอกชน ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นซองประมูลไปจนถึงการยื่นซองประมูล แต่ก็เกิดความผิดพลาดขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติที่มีบริษัทเกี่ยวพันธคดีค้างเก่ากับ อคส.แต่สามารถเข้ามายื่นซองประมูลในครั้งนี้ได้ จึงทำให้เสียเวลาไปกับการตรวจสอบในเชิงลึกถือว่าการทำงานของ อคส.ไม่เป็นมืออาชีพอย่างมาก และเห็นว่าหลังจากกระบวนการเซ็นสัญญาขายข้าวในล็อตนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว คงจะมีการปรับองค์กรการทำงานของ อคส.ใหม่
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้จัดเตรียมบุคคลที่มีความรู้และความสามารถสูงที่จะเข้ามานั่งเป็นคณะกรรมการบอร์ด อคส.ซึ่งจะมีบุคคลทั้งเก่าและใหม่ร่วมในคณะกรรมการในชุดใหม่นี้ด้วย รวมถึงจะเร่งหาบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ อคส.อีกด้วย ซึ่งยอมรับว่าจากเปิดประมูลข้าวสารในสตอกค้างเก่านี้ ใช้เวลานานเกินไปและหากไม่ได้ผู้ชนะประมูลหลังจากการเจรจาต่อรองราคาแล้ว โดยเอกชนไม่ยอมปรับราคาให้สูง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เตรียมที่จะเปิดประมูลข้าวสารสตอกนี้ใหม่ แต่เมื่อเอกชนยอมให้ราคาสูงขึ้นจากเดิมกระทรวงพาณิชย์ก็พอใจในราคาข้าวที่ทางผู้ชนะประมูลได้เสนอมา. -514-สำนักข่าวไทย