กรุงเทพฯ 28 ส.ค.-อดีตอสส.ระบุหากจะขอตัวยิ่งลักษณ์เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ต้องรอคำพิพากษา 27 ก.ย.นี้ก่อน ส่วนจะได้ตัวกลับหรือไม่ขึ้นอยู่กับประเทศที่หนีไปพำนักจะพิจารณา
นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวถึงขั้นตอนตอนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนและการลี้ภัยในต่างประเทศกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบโครงการรับจำนำข้าว ว่า เมื่อศาลออกหมายจับและเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป 30 วัน หากจะขอตัวให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ควรต้องรอคำพิพากษาในวันที่ 27 กันยายนก่อน ถ้าศาลพิพากษาลงโทษจึงค่อยพิจารณาเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามขั้นตอนว่าหลบหนีไปอยู่ประเทศใดและมีสนธิสัญญาระหว่างกันหรือไม่
“หากศาลพิพากษาลงโทษ กระทรวงการต่างประเทศจะยืนยันว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ประเทศใดแล้วแจ้งอสส.เพื่อตรวจสอบว่ามีหลักฐานพอที่จะสมควรจะให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ แต่ไม่ว่าประเทศนั้นจะมีสนธิสัญญาหรือไม่ก็ตาม ผู้มีหน้าที่ประสานงานกลางคืออสส. โดยใช้วิธีการทางการทูต ถ้าเป็นประเทศที่มีสนธิสัญญาต่อกันจะขอให้ปฏิบัติตามสนธิสัญญา ถ้าไม่มีสนธิสัญญาจะเป็นการขอความร่วมมือผ่านวิธีการทูต ซึ่งหลักเกณฑ์การขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะเป็นความผิดเกี่ยวกับคดีอาญาทั่วไป แต่ถ้าเป็นเรื่องการเมือง เชื้อชาติ หรือการทหาร จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่ได้” อดีตอสส. กล่าว
ส่วนกรณีคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกฟ้องในข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายจะเข้าข่ายลี้ภัยทางการเมืองได้หรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า คดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการฟ้องความผิดทางอาญาทั่วไป ส่วนจะนำเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไปโยงการเมืองหรือไม่ ต้องดูว่าประเทศที่ได้รับการร้องขอให้ส่งตัวจะพิจารณาอย่างไร แม้จะบอกว่าผิดทางอาญาล้วน ๆ แต่ถ้าต่างประเทศบอกว่าเป็นการเมือง เขาอนุญาตให้ลี้ภัยได้
เมื่อถามย้ำว่าหากศาลลงโทษจำคุกน.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้เลยใช่หรือไม่ อดีตอสส. กล่าวว่า เมื่อเป็นไปตามเกณฑ์คือมีโทษทางอาญา มีเหตุผลให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน มีหลักฐานแน่ชัดว่าอยู่ในประเทศใด และมีสนธิสัญญากับประเทศนั้นหรือไม่ สามารถขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ แต่อสส.จะยื่นคำร้องได้ต่อเมื่อหลักฐานแน่ชัด
“ส่วนฝ่ายจำเลยจะอ้างเรื่องเป็นการเมืองขอไม่ให้ส่งตัวย่อมกระทำได้เช่นกัน แต่เราจะรู้ ได้ว่าคดีเป็นการเมืองหรือไม่ก็อยู่ที่ประเทศที่ได้รับการร้องขอจะพิจารณา ซึ่งเป็นอำนาจของประเทศนั้น” นายอรรถพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย