แม่พาลูกสาววัย 17 ร้องถูกอดีตแฟนวัย 19 ทำร้ายร่างกาย-ไร้การเยียว

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – แม่พาลูกสาววัย 17 ร้องสายไหมต้องรอด ถูกอดีตแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย ใช้มีดปังตอฟันยับบาดเจ็บสาหัส แม่แจ้งความพยามฆ่า แต่ตำรวจลงให้เพียงพรากผู้เยาว์ ผ่าน 2 เดือน ด้านฝ่ายชายหายเงียบไร้เยียวยา


นางมะลิซ้อน อายุ 55 ปี อาชีพรับจ้างรายวัน เป็นแม่ผู้เสียหาย และ น.ส.เออายุ 17 ปี นักเรียนซึ่งเป็นผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังผู้เสียหายถูกอดีตแฟนหนุ่มวัย 19 ปี ทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ไร้การเยียวจากครอบครัวผู้ก่อเหตุ

น.ส.เอ เปิดเผยว่า แม่ของตนพักอาศัยอยู่ที่ จ.ระยอง แต่ได้ส่งตนมาเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เป็นนักศึกษา ปวช.ปี 1 ที่กำลังจะขึ้นปี 2 และให้พักอยู่หอพัก แต่ตนได้มีการคบหาและไปพักอาศัยอยู่กับบ้านแฟนหนุ่มวัย 19 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาปวส.ปี 2 โดยที่แม่ไม่ทราบว่าที่ผ่านมาตนได้คบหาและอยู่กับใคร โดยก่อนหน้าวันเกิดเหตุ ตนมีการจับได้ว่าฝ่ายชายมีผู้หญิงคนอื่นจึงขอเลิกรา แต่ฝ่ายชายไม่ยอม พยายามตามง้อและตามราวีตนอยู่ตลอด พร้อมมีการข่มขู่อีกด้วย กระทั่งวันเกิดเหตุคือวันที่ 3 พ.ค.67 ขณะที่ตนนอนเล่นอยู่หน้าบ้าน ฝ่ายชายเดินมานำโทรศัพท์ของตนไปดูแชท และได้เห็นแชทที่ตนคุยกับเพื่อนจึงโวยวายกับตนว่าตนมีคนอื่น หลังจากนั้นเกิดการมีปากเสียงกัน ทางด้านฝ่ายชายมีความกระวนกระวายและวิ่งออกไปหน้าบ้านก่อนกลับเข้ามาอีกครั้งและมีปากเสียงกันอีกรอบ กระทั่งฝ่ายชายตัดสินใจเดินเข้าไปในครัวหยิบมีดปังตอตรงมาหาตน ก่อนถามตนว่า ยืนยันจะเลิกใช่หรือไม่ เมื่อตนตอบยืนยันไป ฝ่ายชายจึงลงมือฟันเข้าที่หน้าผากทันทีเป็นแผลแรก ตนพยายามวิ่งแต่ถูกดึงไว้ และกระหน่ำฟันที่หัวประมาณ 5 รอบ ตนพยายามสู้แต่ไม่เป็นผล ซึ่งในเหตุการณ์นั้นมีพ่อของฝ่ายชายที่รับรู้เหตุการณ์ตั้งแต่ต้นอยู่ด้วย แต่พ่อของฝ่ายชายไม่มีการห้ามหรือช่วยตน โดยที่ผ่านมาฝ่ายชายเคยมีพฤติกรรมรุนแรงต่อแม่ตัวเองแต่ไม่เคยมีกับตน และเคยถือมีดไปขู่แม่ตัวเองด้วย


ขณะนี้จากอาการบาดเจ็บทำให้ตนใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ หยิบจับอะไรไม่ได้ เพราะเส้นเอ็นขาด กระดูกอ่อนแตก มีเพียงแค่มือข้างซ้ายที่พอขยับข้อมือได้ ส่วนอีกข้างขยับไม่ได้ มีนิ้วก้อยขาด และในส่วนหน้าผากมีเลือดคลั่งในสมองและกะโหลกแตก หูขาดทั้งสองข้าง ตนนอนรักษาโรงพยาบาลประมาณ 18-19 วัน

ด้านนางมะลิซ้อน เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัวฝ่ายชายไปแล้ว แต่นอกจากข้อหาพยายามฆ่าแล้ว ทางด้านตนอยากดำเนินคดีพรากผู้เยาว์ด้วย แต่ตำรวจได้มีการแจ้งกับตนว่า ”ที่แม่พูดว่าจะแจ้งคดีพรากผู้เยาว์ แม่รู้หรือไม่ว่ามาตราอะไร หากไม่รู้ก็ไม่ต้องแจ้ง แค่คดีพยายามฆ่าก็หนักแล้วจะไปเอาอะไรกับคดีพรากผู้เยาว์เขาอีก“ และสิ่งที่ทำให้ตนติดใจ คือครอบครัวฝ่ายชายไม่เคยเยียวยาตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน แม้แต่มาเยี่ยมหรือโทรก็ไม่เคย ตนอยากให้ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากตนทำงานรับจ้างรายวัน ต้องลาออกมาดูแลลูกและกู้เงินมารักษาลูกของตน และยังต้องนำรถตู้ไปขายเพื่อมารักษา โดยค่ารักษารวมแล้วประมาณ 200,000 บาท แต่ตนจ่ายไปแล้ว 50,000 บาท ตนมาร้องสายไหมต้องรอดให้ช่วยคืนความยุติธรรมให้แก่ตนและลูก

ขณะที่นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้ตนจะต้องประสานไปยัง พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ให้มาช่วยดูเรื่องนี้ว่าข้อหาที่ตั้งครบถ้วนแล้วหรือไม่ และจะให้ทีมงานพาผู้เสียหายไปกระทรวงยุติธรรมด้วย เพราะต้องมีเรื่องเงินชดเชยเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรมในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพด้วย


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา ได้รับการยืนยันว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาทุกข้อกล่าวหา ทั้งพยายามฆ่าและพรากผู้เยาว์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.-416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร