นายจ้างโหดโร่มอบตัว รับทำร้ายลูกจ้างจริง-ปฏิเสธทำเว็บพนัน

นนทบุรี 9 ธ.ค. – นายจ้างโหดโร่มอบตัวกับตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ยอมรับทำร้ายลูกจ้างอาการสาหัสจริง เพราะสุดทนถูกโกงเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้โอกาสหลายครั้งแต่ไม่เคยกลับใจ ปฏิเสธทำเว็บพนันตามที่ถูกกล่าวหา


คืบหลังนายเอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) ด้วยสภาพร่างกายบอบช้ำ มีร่องรอยถูกทำร้ายสะบักสะบอม หลังถูกนายเอ็ม อายุ 45 ปี นายจ้าง ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ทำร้ายร่างกาย ใช้เหล็กตีศีรษะ ก่อนนำน้ำร้อนกรอกปากและราดขาซ้าย ทำให้ที่ปาก และขาซ้ายเป็นแผลพุพอง เหตุเกิดในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถ.ชัยพฤกษ์ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ระหว่างวันที่ 6-7 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายเอ ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ทำงานกับนายเอ็ม โดยทำหน้าที่แอดมินหรือคนดูแลเว็บพนัน ที่บ้านพักย่านนนทบุรี มานานราว 5 เดือน โดยวันที่ 6 ธ.ค. ถูกชกที่ใบหน้า ต่อมาวันที่ 7 ธ.ค.ถูกตีด้วยเหล็กที่ศีรษะและตามร่างกายหลายจุด ทั้งที่แขน ขา หัวเข่า หน้าแข้ง ก่อนนายเอ็มใช้น้ำร้อนกรอกปาก แล้วนำมาราดที่ขา ทำให้มีบาดแผลเขียวช้ำ แขน-ขาบวม เดินไม่สะดวก นอกจากนี้ยังใช้อาวุธปืนยัดปากบังคับให้อม พร้อมข่มขู่ว่าจะซ้อมตนอีก


ส่วนสาเหตุมาจากความหึงหวงที่นายเอ็มไม่พอใจคิดว่าตนแอบคุยกับแฟนสาว โดยตนพยายามอธิบายแล้วว่าไม่เป็นความจริง แต่นายเอ็มไม่ ฟังใช้กำลังทำร้าย ก่อนอาศัยจังหวะนายเอ็มเข้านอน จึงตัดสินใจปีนรั้วหลังบ้าน รีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เรียกประชุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งคลี่คลายคดี พร้อมเรียกตัวนายเอ็ม ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำ เบื้องต้นเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายนายเอจริง และได้ข้อมูลว่าผู้เสียหายพูดคุยกับภรรยาของผู้ก่อเหตุจึงเกิดความหึงหวง โมโหที่ผู้บาดเจ็บพูดคุยกับภรรยา ส่วนเรื่องที่ผู้บาดเจ็บอ้างถึงเรื่องเว็บพนันออนไลน์ ทำหน้าที่รับจ้างคีย์ข้อมูลต่างๆ ขายโฆษณา ยัง เป็นคำกล่าวอ้างของผู้บาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส และพกพาอาวุธปืน และจากการตรวจสอบประวัติพบผู้ก่อเหตุเป็นคนอารมณ์รุนแรง เคยมีประวัติทำร้ายร่างกายแม่บ้าน และเสพยาเสพติด มาก่อนหน้านี้

ค้นบ้านเจ้าของเว็บพนัน พบบุหรี่ไฟฟ้า-น้ำยาจำนวนมาก
ต่อมาตำรวจนำตัวนายเอ็ม พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี เบื้องต้นพบรถกระบะสีดำจอดอยู่หน้าบ้าน พบกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ถุงขยะใส่บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก คอมพิวเตอร์ และเอกสารจำนวนหนึ่ง


ลูกน้องคนสนิทให้ข้อมูลว่า สิ่งของที่อยู่ในรถ นายเอ็มสั่งการให้ขนออกจากบ้าน เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับเว็บพนัน ขณะเดียวกันได้ประสานพิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี เข้าตรวจหาร่องรอยกระสุนและคราบเลือด ส่วนเหล็กที่ใช้ทำร้ายนายเอ ยึดไปตรวจสอบแล้ว ขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ ต้องรอตรวจสอบจากคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดไว้ก่อน

เจ้าของเว็บพนันสารภาพทำร้ายลูกน้องจริง
นายเอ็ม ผู้ก่อเหตุ เปิดใจยอมรับว่าทำร้ายร่างกายนายเอจริง หลังไม่พอใจที่นายเอโกงเงินไปหลายครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยให้โอกาสแล้วไม่ทำให้ดี ส่วนที่นายเออ้างว่าตนเกี่ยวกับเว็บพนัน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เรื่องแชทกับภรรยาจนทำให้เกิดปัญหาหึงหวงก็ไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับเคยทำงานเกี่ยวกับการทวงหนี้จนต้องติดคุกมาก่อนหน้านี้

แฟนเจ้าของเว็บ เผยแอดมินถูกทำร้ายไม่ใช่เรื่องหึงหวง
ด้าน น.ส.โม (นามสมมติ) อายุ 24 ปี แฟนสาวนายเอ็ม บอกว่านายเอ คนเจ็บ เพิ่งออกจากคุกมา โดยพี่เอ็มให้โอกาส หางานให้ทำงาน ตอนแรกที่เขามาทำงานพี่เอ็มยังไม่ได้ให้เงินเดือน เขาเคยหลอกเอาเงินไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่พี่เอ็มก็ให้โอกาสเขาให้ช่วยวิ่งงาน วิ่งส่งไลน์แมน ส่งของ แล้วก็ให้เงินบางครั้ง เขาไม่ได้ทำงานพี่เอ็มก็ให้เงินเขาใช้ และเขายังเคยโกงเงินไปหลายรอบ เอาของจากบ้านนี้ไปเป็นของบ้านตัวเอง ตอนที่พี่เอ็มทำร้าย เอาปืนให้อม เอาเนื้อหมูกระทะนาบที่แผล ตนไม่เห็น ตอนที่เขาร้องขอความช่วยเหลือตอนนั้นตนอยู่ในบ้าน ก่อนหน้านี้พี่เอ็มเคยทำเว็บพนัน แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว และการที่พี่เอ็มทำร้ายนายเอ ตนคิดว่าถ้าเขาไม่สุดแล้วเขาคงไม่ทำ โดยปกติพี่เอ็มเป็นคนอารมณ์ร้อนและไม่ชอบให้ใครเถียง ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าพี่เอ็มหึงหวงตนที่มีการคุยไลน์กับคนเจ็บ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเรื่องที่เบ้าตาตนเขียวช้ำเป็นวงนั้น เป็นเพราะเดินชนกระจก ไม่ได้ถูกทำร้าย

ล่าสุด พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี บอกว่า จากการตรวจค้นมีอุปกรณ์และสิ่งของที่ใช้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย มีอาวุธปืนที่ผู้ก่อเหตุนำไปทิ้งน้ำ ซึ่งในบ้านไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเพราะมีปัญหาทะเลาะกัน ผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้บาดเจ็บขโมยทรัพย์สินในบ้าน ซึ่งอยู่ด้วยกันมา 4 เดือน หลังจากไปพบกันที่เรือนจำพัทยา ผู้ก่อเหตุเคยถูกจับที่ สภ.แสนสุข ในคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งอยู่ระหว่างอุทธรณ์ เบื้องต้นแจ้งหลายข้อหาคือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส, พ.ร.บ.สรรพากร เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า และกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนอาวุธปืนจะดำเนินคดีด้วย แต่เบื้องต้นยังหาไม่พบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย