นายจ้างโหดโร่มอบตัว รับทำร้ายลูกจ้างจริง-ปฏิเสธทำเว็บพนัน

นนทบุรี 9 ธ.ค. – นายจ้างโหดโร่มอบตัวกับตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ยอมรับทำร้ายลูกจ้างอาการสาหัสจริง เพราะสุดทนถูกโกงเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้โอกาสหลายครั้งแต่ไม่เคยกลับใจ ปฏิเสธทำเว็บพนันตามที่ถูกกล่าวหา


คืบหลังนายเอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) ด้วยสภาพร่างกายบอบช้ำ มีร่องรอยถูกทำร้ายสะบักสะบอม หลังถูกนายเอ็ม อายุ 45 ปี นายจ้าง ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ทำร้ายร่างกาย ใช้เหล็กตีศีรษะ ก่อนนำน้ำร้อนกรอกปากและราดขาซ้าย ทำให้ที่ปาก และขาซ้ายเป็นแผลพุพอง เหตุเกิดในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถ.ชัยพฤกษ์ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ระหว่างวันที่ 6-7 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายเอ ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ทำงานกับนายเอ็ม โดยทำหน้าที่แอดมินหรือคนดูแลเว็บพนัน ที่บ้านพักย่านนนทบุรี มานานราว 5 เดือน โดยวันที่ 6 ธ.ค. ถูกชกที่ใบหน้า ต่อมาวันที่ 7 ธ.ค.ถูกตีด้วยเหล็กที่ศีรษะและตามร่างกายหลายจุด ทั้งที่แขน ขา หัวเข่า หน้าแข้ง ก่อนนายเอ็มใช้น้ำร้อนกรอกปาก แล้วนำมาราดที่ขา ทำให้มีบาดแผลเขียวช้ำ แขน-ขาบวม เดินไม่สะดวก นอกจากนี้ยังใช้อาวุธปืนยัดปากบังคับให้อม พร้อมข่มขู่ว่าจะซ้อมตนอีก


ส่วนสาเหตุมาจากความหึงหวงที่นายเอ็มไม่พอใจคิดว่าตนแอบคุยกับแฟนสาว โดยตนพยายามอธิบายแล้วว่าไม่เป็นความจริง แต่นายเอ็มไม่ ฟังใช้กำลังทำร้าย ก่อนอาศัยจังหวะนายเอ็มเข้านอน จึงตัดสินใจปีนรั้วหลังบ้าน รีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เรียกประชุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งคลี่คลายคดี พร้อมเรียกตัวนายเอ็ม ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำ เบื้องต้นเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายนายเอจริง และได้ข้อมูลว่าผู้เสียหายพูดคุยกับภรรยาของผู้ก่อเหตุจึงเกิดความหึงหวง โมโหที่ผู้บาดเจ็บพูดคุยกับภรรยา ส่วนเรื่องที่ผู้บาดเจ็บอ้างถึงเรื่องเว็บพนันออนไลน์ ทำหน้าที่รับจ้างคีย์ข้อมูลต่างๆ ขายโฆษณา ยัง เป็นคำกล่าวอ้างของผู้บาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส และพกพาอาวุธปืน และจากการตรวจสอบประวัติพบผู้ก่อเหตุเป็นคนอารมณ์รุนแรง เคยมีประวัติทำร้ายร่างกายแม่บ้าน และเสพยาเสพติด มาก่อนหน้านี้

ค้นบ้านเจ้าของเว็บพนัน พบบุหรี่ไฟฟ้า-น้ำยาจำนวนมาก
ต่อมาตำรวจนำตัวนายเอ็ม พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี เบื้องต้นพบรถกระบะสีดำจอดอยู่หน้าบ้าน พบกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ถุงขยะใส่บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก คอมพิวเตอร์ และเอกสารจำนวนหนึ่ง


ลูกน้องคนสนิทให้ข้อมูลว่า สิ่งของที่อยู่ในรถ นายเอ็มสั่งการให้ขนออกจากบ้าน เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับเว็บพนัน ขณะเดียวกันได้ประสานพิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี เข้าตรวจหาร่องรอยกระสุนและคราบเลือด ส่วนเหล็กที่ใช้ทำร้ายนายเอ ยึดไปตรวจสอบแล้ว ขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ ต้องรอตรวจสอบจากคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดไว้ก่อน

เจ้าของเว็บพนันสารภาพทำร้ายลูกน้องจริง
นายเอ็ม ผู้ก่อเหตุ เปิดใจยอมรับว่าทำร้ายร่างกายนายเอจริง หลังไม่พอใจที่นายเอโกงเงินไปหลายครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยให้โอกาสแล้วไม่ทำให้ดี ส่วนที่นายเออ้างว่าตนเกี่ยวกับเว็บพนัน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เรื่องแชทกับภรรยาจนทำให้เกิดปัญหาหึงหวงก็ไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับเคยทำงานเกี่ยวกับการทวงหนี้จนต้องติดคุกมาก่อนหน้านี้

แฟนเจ้าของเว็บ เผยแอดมินถูกทำร้ายไม่ใช่เรื่องหึงหวง
ด้าน น.ส.โม (นามสมมติ) อายุ 24 ปี แฟนสาวนายเอ็ม บอกว่านายเอ คนเจ็บ เพิ่งออกจากคุกมา โดยพี่เอ็มให้โอกาส หางานให้ทำงาน ตอนแรกที่เขามาทำงานพี่เอ็มยังไม่ได้ให้เงินเดือน เขาเคยหลอกเอาเงินไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่พี่เอ็มก็ให้โอกาสเขาให้ช่วยวิ่งงาน วิ่งส่งไลน์แมน ส่งของ แล้วก็ให้เงินบางครั้ง เขาไม่ได้ทำงานพี่เอ็มก็ให้เงินเขาใช้ และเขายังเคยโกงเงินไปหลายรอบ เอาของจากบ้านนี้ไปเป็นของบ้านตัวเอง ตอนที่พี่เอ็มทำร้าย เอาปืนให้อม เอาเนื้อหมูกระทะนาบที่แผล ตนไม่เห็น ตอนที่เขาร้องขอความช่วยเหลือตอนนั้นตนอยู่ในบ้าน ก่อนหน้านี้พี่เอ็มเคยทำเว็บพนัน แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว และการที่พี่เอ็มทำร้ายนายเอ ตนคิดว่าถ้าเขาไม่สุดแล้วเขาคงไม่ทำ โดยปกติพี่เอ็มเป็นคนอารมณ์ร้อนและไม่ชอบให้ใครเถียง ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าพี่เอ็มหึงหวงตนที่มีการคุยไลน์กับคนเจ็บ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเรื่องที่เบ้าตาตนเขียวช้ำเป็นวงนั้น เป็นเพราะเดินชนกระจก ไม่ได้ถูกทำร้าย

ล่าสุด พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี บอกว่า จากการตรวจค้นมีอุปกรณ์และสิ่งของที่ใช้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย มีอาวุธปืนที่ผู้ก่อเหตุนำไปทิ้งน้ำ ซึ่งในบ้านไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเพราะมีปัญหาทะเลาะกัน ผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้บาดเจ็บขโมยทรัพย์สินในบ้าน ซึ่งอยู่ด้วยกันมา 4 เดือน หลังจากไปพบกันที่เรือนจำพัทยา ผู้ก่อเหตุเคยถูกจับที่ สภ.แสนสุข ในคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งอยู่ระหว่างอุทธรณ์ เบื้องต้นแจ้งหลายข้อหาคือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส, พ.ร.บ.สรรพากร เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า และกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนอาวุธปืนจะดำเนินคดีด้วย แต่เบื้องต้นยังหาไม่พบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]