คลังเอาแน่ให้ต่างชาติเช่า 99 ปี กระตุ้นอสังหาฯ ศก.ให้ฟื้นตัว

กรุงเทพฯ 10 ก.ค. – “พิชัย” ย้ำรัฐบาลเดินหน้าโครงการเช่าอาคารชุด ให้ต่างชาติเช่านาน 99 ปี หวังกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ตกค้างมากถึง 2 แสนยูนิต มั่นใจไม่ใช่หายนะ ต่างชาติมีสิทธิแค่ใช้ แต่ไม่มีกรรมสิทธิที่ดิน ชี้กังวลหนี้เอ็นพีแอลจากหนี้ครัวเรือนพุ่ง เตรียมหารือ ธปท.และแบงก์พาณิชย์ ร่วมหาทางลดหนี้เอ็นพีแอล


นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาและเสวนาพิเศษ ในหัวข้อ “พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืน” ว่า ยอมรับว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้กำลังประสบปัญหามีปริมาณอาคารชุดเหลืออยู่สูงถึงกว่า 200,000 ยูนิต คนไม่มีกำลังซื้อ เพราะมีปัญหาหนี้ครัวเรือนต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เป็นสิ่งที่กระทรวงการคลังและรัฐบาลจะต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังเห็นว่าแนวทางการให้ต่างชาติเข้ามาเช่าอาคารชุดในระยะยาว 99 ปี ถือเป็นนโยบายที่เหมาะสมที่จะลดปัญหาการตกค้างของอาคารชุดให้น้อยลงได้ แต่แนวทางการเปิดให้เช่า จะต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์พื้นที่หรือโซนนิ่งที่ชัดเจนว่าจะให้ต่างชาติสามารถเช่าอาคารแต่ละยูนิต โดยกำหนดวงเงินมากกว่า 30-40 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งการเช่าต่างชาติจะมีกรรมสิทธิแค่การใช้ แต่การถือครองกรรมสิทธิยังเป็นสิทธิของผู้ให้เช่า ดังนั้นเมื่อครบกำหนดเช่า 99 ปี ต่างชาติจะต้องคืนสิทธิให้กับเช่าเดิม จึงถือว่าไม่ใช่มาตรการในการขายชาติตามที่หลายฝ่ายกังวลกัน เรื่องนี้ไม่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพียงแต่ไปกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้เกิดความชัดเจนของการเช่า และกระทรวงการคลังยังเห็นว่าที่ดินของหน่วยงานราชการที่มีอยู่เป็นจำนวนมากสามารถที่จะนำมาพัฒนาเพื่อเปิดให้เช่าโดยเน้นคนต่างชาติมาเช่าพื้นที่ โดยเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งหากสามารถทำได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยได้


นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังมีความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหนี้เอ็นพีแอลที่มีมากถึง 2 แสนล้านบาท โดยที่ครัวเรือนจะเกิดจากปัญหาเป็นหนี้ทั้งอสังหาริมทรัพย์ หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต ซึ่งหนี้เหล่านี้มีมากถึง 90% ของจีดีพี ถือว่ามีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น กระทรวงการคลังจะมีการหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาหนี้เอ็นพีแอลที่เกิดจากหนี้ภาคครัวเรือนให้น้อยลง ซึ่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนคนที่จะมีความเข้าใจมากสุด คือ คนที่ปล่อยสินเชื่อ เพราะจะรู้ดีว่าหนี้แต่ละรายที่เกิดขึ้นจะมีการผ่อนปรนอย่างไร หากสามารถดำเนินการได้ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้

ส่วนความคืบหน้ากองทุนวายุภักษ์ ในส่วนของกระทรวงการคลัง จะใช้กองทุนเดิม โดยจะเพิ่มกองทุนเงินกองทุน 1-1.5 แสนล้าบบาท คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้จะเริ่มดำเนินการได้

“การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผูกติดกับเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีเศรษฐกิจวันนี้ไม่ดีมานานแล้วและแย่ลงโตลงแบบขั้นบันได แต่โดยรวมประเทศไทยมีภูมิประเทศดีกว่าหลายภูมิภาคพื้นที่ของไทยมากกว่า 300 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ในการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรมหากประเทศรอบของไทยไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลางญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศยังมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพอย่างเหมาะสมที่จะเข้ามาทำการค้าและการลงทุนดังนั้นถ้าอยู่ที่การจัดการโดยเฉพาะปัญหาด้านโครงสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเทคโนโลยีรวมถึงการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะกลุ่มที่อายุ 25-40 ปีที่จะต้องเสริมความรู้เพิ่มทักษะรองรับที่หลายประเทศจะเข้ามาทำการลงทุนในไทยเพิ่มในอนาคต” นายพิชัย กล่าว


นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยกล่าวว่า คนที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถ้าที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างล้านบาทต้นๆจะมีคนทำธุรกิจนี้น้อยมาก เพราะทำมาแล้วไม่คุ้มทุน และสิ่งที่ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กังวลเมื่อทำมาแล้ว ผู้ซื้อกู้ไม่ผ่านคนทำธุรกิจต้องรับผิดชอบ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่เหนื่อยพอสมควร และมองว่าหากภาครัฐ โดยเฉพาะการเคหะแห่งชาติจะเข้ามาดูแลนำที่อยู่อาศัยที่การเคหะดูแลอยู่มาทำการให้เช่าให้ผู้มีรายได้น้อยจะถือเป็นเรื่องดี

นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ยอมรับว่าแย่ลงเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจคนไม่มีกำลังซื้อเกิดจากปัญหานี้ครูเดินเยอะแต่ก็คาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะโตขึ้นสองถึง 2.5% ก็น่าจะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดีขึ้นมาบ้าง โดยทางแสนสิริจะไม่พูดถึงเรื่องการเช่า 99 ปี เพราะจะถูกตำหนิ แต่ในฐานะที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบ 40 ปี โดยธุรกิจของกลุ่มยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี ซึ่งจะเน้นการพัฒนาคุณภาพระดับสูง ควบคู่กับการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับบนเป็นหลัก

ผศ. ดร.เกษรา รัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางเสนาจะเน้นทำบ้านที่อยู่อาศัยในระดับคนชั้นกลาง ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาทางเสนาฯ มีพันธมิตรที่ดี สามารถทำบ้านที่อยู่อาศัยและตอบโจทย์กับลูกค้าโดยเฉพาะนำโครงการบ้านประหยัดพลังงาน เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกบ้านในการประหยัดค่าใช้จ่าย

นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ เอนโก้ กล่าวว่า ในปีนี้ เอนโก้ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริหารจัดการอาคารสถานที่ได้ดำเนินงานมาจนครบ 20 ปีบริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในวาระสำคัญต่างๆมากมาย รวมทั้งการจัดงานสัมมนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จัด ขึ้นในครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยเป็นการเปิดเวทีใหผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจได้แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อวงการ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในอนาคต”

“สำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจของเอนโก้ในปัจจุบัน เราดำเนินธุรกิจที่หลากหลายทั้งด้านบริหารอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริหารจัดการอาคารสถานที่ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้ โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่ และกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เอนโก้ มีการปรับตัวสอดคล้องตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจ ผ่านกลยุทธ์ B2CS ประกอบด้วย B – Beyond แสวงหาโอกาสในการขยายการเติบโต, C-Cooperation ร่วมมือกับคู่ค้าทางธุรกิจที่มีศักยภาพ, C – Compettiveness เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการพัฒนาศักภาพภายใน, S – Speed ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการส่งมอบสินค้า และบริการให้แก่ลูกค้าได้ตรงตามกำหนดเวลา และ S – Sustainable Way ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งการดูแลสังคม ชุมชน และ สิ่งแวดล้อม

“เอนโก้ คาดการณ์รายได้ภายในปี 2570 จะต้องมากกว่า 3,000 ล้านบาทพร้อมเป้าหมายในระยะสั้น จะต้องมีผลตอบแทนจากสินทรัพย์อย่างน้อยร้อยละ 5 ต่อปี และตั้งเป้าหมายแบ่งสัดส่วนกำไรสนับสนุนสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม อย่างน้อยร้อยละ 1 ของกำไรสุทธิต่อปี นอกจากนี้ ยังได้ตั้งเป้าหมายในระยะยาว โดยคาดการณ์ว่าจะต้องมีกำไรสุทธิมากกว่า 800 ล้านบาท ภายในปี 2573 ที่จะเป็นผลมาจากการดำเนิน ธุรกิจเดิมที่ดำเนินการอยู่แล้ว และมองหาโอกาสในการดำเนินธุรกิจใหม่ที่สอดคล้องกับกลุ่ม ปตท.อาทิ การร่วมกับบริษัทในกลุ่ม ปตท.นำธุรกิจปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์มาประยุกต์ใช้ภายในพื้นที่เอนโก้ บริหารจัดการ รวมทั้ง ค้นหาโอกาสในการลงทุนในโครงการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเอนโก้ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาอีกหลากหลายโครงการ ทั้งโครงการในรูปแบบของโครงการร่วมทุน และโครงการที่พัฒนาพื้นที่ที่เอนโก้ หรือบริษัทในกลุ่ม ปตท.เป็นเจ้าของพื้นที่อยู่แล้ว ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รองรับการขยายธุรกิจของทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเอนโก้ในด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริหารจัดการอาคารสถานที่เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนตลอดไป” นายศิรศักดิ์ กล่าว.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี