สุราษฎร์ฯ 27 ส.ค.- นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คนที่สอง กล่าวถึง ความคืบหน้าใน การจัดทำร่างสัญญาประชาคม ของคณะกรรมการเตรียมการ เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ภายหลังจากที่ได้นำร่างสัญญาประชาคม เสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว ว่า นายกรัฐมนตรีได้มีความคิดเห็นเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย และเมื่อได้นำร่างสัญญาประชาคมมาปรับแก้ให้สมบูรณ์แล้ว จะนำไปทำความเข้าใจกับประชาชนอีกครั้ง ให้เกิดความชัดเจน โดยความปรองดองเป็นบ่อเกิดของความมั่นคงเศรษฐกิจ และสังคม ขณะเดียวกันถ้าประเทศไม่มีความปรองดองเกิดขึ้น ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้น ดังนั้น ต้องทำให้ทุกภาคส่วนมีความเข้าใจอันดีระหว่างกัน เช่น พรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองต่างๆ ภาคธรุกิจและ ภาคประชาชน
นายพีระศักดิ์ กล่าวถึง กรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลฏีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีรับจำนำข้าว จะกระทบกับการปรองดองหรือไม่นั้น ว่า เป็นเรื่องของคดีความและเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล หลังจากนี้ต้องรอดูผลกระทบว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งยังไม่รู้ว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร ทั้งนี้ มองว่าหากหลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหว ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีคนรักและคนชอบเป็นจำนวนมาก แต่ทุกอย่างก็ต้องเดินไปตามกฎหมาย และเชื่อว่าสถานการณ์จะปกติ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ซึ่งการสร้างความสงบในประเทศเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่จะต้องดูแลรักษาความสงบของประเทศ ขณะที่หน่วยงานอื่นๆของภาครัฐมีหน้าที่ในการดูแลเรื่องความยุติธรรมด้วย.-สำนักข่าวไทย .