นครราชสีมา 2 ก.ค. – ครม.ไฟเขียวยกเลิก Duty Free ขาเข้าประเทศ หวังให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสินค้าในประเทศ 3,460 ล้านบาท/ปี
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบแนวทางการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวด้วยการให้ภาคเอกชนผู้รับสัมปทาน 3 ราย ตั้งดิวตี้ฟรี 8 แห่ง ประกอบด้วย สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ อู่ตะเภา หาดใหญ่ สมุย หยุดให้บริการขายสินค้าดิวตี้ฟรีขาเข้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าเข้ามาใช้ในประเทศโดยเสียภาษี หลังจากยอดขายรวมช่วงที่ผ่านมา 3,021 ล้านบาท
โดยภาคเอกชนทั้ง 3 ราย ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง ยินดียุติดิวตี้ฟรีขาเข้าตามนโยบายรัฐบาล จนกว่าจะเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว ขณะที่สภาพัฒน์ เสนอให้แจ้งข้อมูลต่อ ครม. หลังการยกเลิกมาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินผลของการหยุดใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี จากปัจจุบันผู้เดินทางเข้ามาในประเทศผ่านสนามบินนานาชาติ สามารถซื้อสินค้า ยกเว้นภาษีเป็นการส่วนตัวหรือใช้ในวิชาชีพ ราคารวมกันไม่เกิน 20,000 บาท
บุหรี่ปริมาณไม่เกิน 200 มวน หรือซิการ์ หรือยาเส้น ปริมาณไม่เกินอย่างละ 250 กรัม บุหรี่ต้องมีปริมาณไม่เกิน 200 มวน หรือ 1 คอตตอน และซื้อสุราไม่เกิน 1 ลิตร ภายในร้าน Duty Free ขาเข้า มองว่า ทำให้การบริโภคและการซื้อสินค้าภายในประเทศน้อยลง กระทรวงการคลังจึงเสนอยกเลิกร้าน Duty Free ขาเข้า เพื่อส่งเสริมการบริโภคและการใช้สินค้าภายในประเทศ หากหยุดขาย 1 ปี คาดว่าการใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่อคนต่อทริปเพิ่มขึ้น 570 บาท สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนใหม่ 3,460 ล้านบาทต่อปี ทำให้ GDP ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.012 ต่อปี. -515 สำนักข่าวไทย