“บิ๊กโจ๊ก” ยื่นฟ้อง “กูรู” ยศ พล.ต.ต. ปมหมิ่นประมาท เรียก 10 ล้าน

กรุงเทพฯ 28 มิ.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” เดินหน้าฟ้อง “กูรู” ยศ “พล.ต.ต.” 10 ล้านบาท ปมหมิ่นประมาท ลั่นทุกวันนี้ถูกรุมกินโต๊ะจีน ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว เชื่อ 2 บิ๊กตำรวจ ไม่กล้าถอนคำสั่ง เพราะไม่ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อยื่นฟ้องกูรูด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นอดีตตำรวจยศ “พล.ต.ต.” ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีจงใจใส่ความ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่อบุคคลที่ 3 ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า กูรูท่านนี้ถือเป็นคนที่ 2 ที่ตนเองฟ้อง และหลังจากนี้จะเดินหน้าฟ้องกูรูอีก 2 คน รวมถึงนายกรัฐมนตรี โดยจะเร่งให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมฝากเตือนกูรูว่าการจะสัมภาษณ์อะไรก็ตาม เป็นการพูดเอามัน โดยไม่รู้กฎหมายที่แท้จริง กระทบสิทธิของตนเอง ตนเองก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะกูรูที่อายุมากแล้ว ก็ไม่ควรพูดให้สังคมสับสน แต่ควรอยู่ให้เป็นที่เคารพสักการะของเด็กรุ่นใหม่


ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ยอมเพิกถอนคำสั่งเพราะทำใจไม่ได้ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว อายเขา จึงไม่กล้ากลืนน้ำลายตัวเอง แต่เมื่อกฎหมายใหม่ออกมา ก็ควรยึดตามกฎหมายใหม่ ไม่ใช่ไปยึดตามกฎหมายเก่า ส่วนตนเองจะได้กลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์หรือไม่นั้น มองว่าตนเองก็สู้ตามหลักกฎหมาย จะได้กลับหรือไม่ได้กลับก็ขึ้นอยู่กับหลักกฎหมาย ตนเองไม่ได้ไปขอร้อง หรือร้องไห้ ให้นายกรัฐมนตรีหรือบุคคลใดมาช่วย ตนเองเพียงเดินตามหลักกฎหมาย ครั้งที่แล้วที่ตนเองถูกโยกย้ายไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งครั้งนั้นถือว่าหนักกว่าครั้งนี้ เพราะตนเองต้องไปเป็นข้าราชการพลเรือนเลย ตนเองก็ไม่เคยขอให้ใครช่วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมองว่าไม่ได้เป็นการแพครวมเอาทั้งองค์กรมาสู้กับตนเองเพียงคนเดียว เพราะในแพคมีอยู่ไม่กี่คน แม้ในแพคนี้จะเป็นผู้มีอำนาจ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และทุกวันนี้ตนเองโดนรุมกินโต๊ะจีนอยู่แล้ว ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวอยู่แล้ว แต่ก็มีไม่กี่คนที่ทำ ซึ่งปัจจุบันประชาชนเริ่มมองเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองก็ต้องต่อสู้ ถ้าไม่ต่อสู้ตนเองก็คงต้องกลับบ้าน

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ทำหนังสือชี้แจงแย้งคำอุทธรณ์ของตนเอง ส่งกลับไปให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. นั้น ทาง ก.พ.ค.ตร. ได้ส่งคำแย้งกลับมาที่ตนเองแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด ซึ่งในวันอังคารนี้ ตนเองจะทำความเห็นแย้งส่งกลับไปให้คณะกรรมการฯ อย่างแน่นอน ส่วนการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. จะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตามที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น เชื่อว่าจะจบภายใน 120 วัน เพราะเป็นการพิจารณาตามข้อกฎหมาย ไม่ได้ใช้ดุลพินิจ


ส่วนกรณีที่ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชน ว่า คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามขั้นตอน เรื่องนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มองว่า อาจารย์วิชาอาจเข้าใจผิดเรื่องคณะกรรมการที่ตรวจสอบวินัย อาจจะดูข้อมูลเร็วๆ ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ เพราะอาจารย์วิชาเป็นนักกฎหมายที่เก่ง และเป็นถึงอดีตคณะกรรมการ ป.ป.ช. ย่อมรู้เรื่องกฎหมายดี แต่กฎหมายตำรวจ มี พ.ร.บ.เฉพาะ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ฟ้องกลับอาจารย์วิชา ส่วนเหตุผลที่ตนเองเลือกมายื่นฟ้องที่ศาลอาญากรุงเทพใต้นั้น ก็เพราะตนเองสะดวก ใกล้บ้าน และใกล้สถานที่ออกกำลังกาย ไม่ได้รู้จักบุคคลใดที่ศาลเป็นการส่วนตัว. -412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก