รวบ 2 พี่น้องหลอนยา แทงสัปเหร่อดับ

อุดรธานี 19 พ.ค.-ตำรวจอุดรธานี รวบ 2 พี่น้องหลอนยา ควงมีดไล่แทงลุงสัปเหร่อเสียชีวิต อ้างคิดค่าทำศพแพง

2 พี่น้องทำร้ายลุงสัปเหร่อ โดยคนพี่ถือมีดปลอกผลไม้ ส่วนคนน้องถือมีดตัดอ้อย ไล่ทำร้ายผู้ตายที่ก็ถือมีดดาบยาวในมือ เข้ามาในร้านขายของชำ ก่อนวิ่งออกไปหน้าร้าน คนพี่เตะหลายครั้ง เตะตัดขาลุงสัปเหร่อจนล้มลงหัวน็อกพื้น แล้วขึ้นค่อมตัวผู้ตาย ก่อนใช้มีดปลอกผลไม้แทงเข้าที่บริเวณลิ้นปี่ของผู้ตาย ส่วนคนน้องก็ยืนเหยียบแขนผู้ตายเอาไว้ ไม่ให้ต่อสู้ ก่อนมีชาวบ้านเข้าไปห้าม และยึดมีดที่ใช้ก่อเหตุเอาไว้ จากนั้นทั้งคู่หลบหนีไป เหตุเกิดหน้าร้านขายของชำกางหมู่บ้านดงธาตุ ม.7 ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ชาวบ้านรีบแจ้งตำรวจ สภ.กุดจับ ว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน และยังเดิน ป้วนเปี้ยนอยู่ภายในหมู่บ้านด้วยอาการเมาและหลอน


ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุที่พบศพนายอุไร อายุ 65 ปี สัปเหร่อวัดประจำหมู่บ้าน ถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าบริเวณลิ้นปี่ นอนเสียชิวตอยู่หน้าร้านขายของชำ โดยมีชาวบ้านเก็บของกลางอาวุธมีดไว้ให้ตำรวจ เป็นมีดพับปลายแหลมเปื้อนเลือด หรือมีดปลอกผลไม้ ยาวประมาณ 6 นิ้ว 1 เล่ม มีดตัดอ้อยยาวประมาณ 60 ซม. 1 เล่ม และมีดซาปาต้าเปื้อนเลือดความยาวประมาณ 60 ซม. 1 เล่ม ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และมอบศพผู้ตายให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศล
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นเครือญาติกัน และมีศักดิ์เป็นหลาน ทราบชื่อคือ นายยุทธพงษ์ หรือไก่ อายุ 32 ปี และนายอดิศักดิ์ หรือเขียว อายุ 30 ปี พี่น้องกัน หลังก่อเหตุได้พาปั่นจักรยานสีชมพูกลับบ้าน ตำรวจจึงตามไปจับกุมตัว นายไก่ ได้ที่หน้าบ้านพัก ขณะนอนอยู่บนเปลใต้ถุนบ้าน และฟังเพลงไปด้วย ข้างเปลพบอาวุธมีดพร้าและขวาน ตำรวจจึงใช้ยุทธวิธีไม้ง่าม ไม้ตะขอ และโล่ เข้าควบคุมตัว ที่ยังอยู่ในอาการเมาเหล้าขาว และอาการหลอนยา พูดจาวกวนไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่จับใจความได้ว่า ไม่รู้ว่าตนแน้องไปฆ่าสัปเหร่อ ซึ่งเป็นเครือญาติกัน และตนก็ได้รับบาดเจ็บถูกสัปเหร่อใช้มีดสปาต้าฟันที่ง่ามมือขวาได้รับบาดเจ็บ ปมจากมีปากเสียงเรื่องงานศพให้ตาของตน ก่อนตำรวจควบคุมตัวมาที่โรงพัก

ขณะที่นายเขียว ตำรวจได้ปูพรมหาตัวทั่วหมู่บ้านประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบตัว จึงให้ญาติเกลี่ยกล่อมพาเข้ามอบตัวกับตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัวมาสอบสวน ตรวจปัสสาวะทั้งสองคน พบเป็นสีม่วง แต่ทั้งสองยังอยู่ในอาการเมาและหลอน พูดจาไม่รู้เรื่อง และทั้งสองคนยอมรับว่าเสพยาบ้าเมื่อวานก่อน 3 เม็ด และพากันมากินเหล้าขาว หลังจากไปใต้อึ่ง มาทำอาหารตั้งแต่คืนที่ผ่านมาจนเมา ก่อนพากันไปก่อเหตุ


พ่อคนก่อเหตุ เล่าว่าลูกชายทั้ง 2 คน ดื่มสุราและเสพยาเสพติดมานานแล้ว เคยเอาไปบำบัดรักษาก็กับมาเสพอีกเหมือนเดิม ผู้ตายนั้นก็เหมือนญาติ เพราะย้ายมาจาก อ.กุมภวาปี ด้วยกัน เสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ใครทำก็ต้องรับผิดไปตามกฎหมายบ้านเมือง ขอโทษดวงวิญญาณผู้ตายแทนลูกชาย

หลานสาวคนตายบอกว่า ตาของตนเป็นสัปเหร่อวัดประจำหมู่บ้าน และจัดงานศพให้กับตาของ 2 คนที่ก่อเหตุเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ทั้ง 2 คนมักต่อว่าประจำ ว่าจัดงานไม่สมกับราคาที่จ้าง ตาเคยไปพูดเรื่องนี้ให้ยายรับรู้ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นญาติของยาย ยายก็บอกตาว่าไม่ต้องไปสนใจอะไร โดยค่าเผาศพ 2,000 บาท ค่าโรงเย็น 500 บาทรวม 2,500 บาท ตาจะเอาแค่ค่าโรงเย็น 500 บาทเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็เอาไปบริจาคให้วัด แล้วแต่ท่านพระครูจะให้ค่าแรงตาไว้พอได้ใช้

ภรรยาผู้ตาย ยอมรับเสียใจ แต่คงไม่อาฆาตแค้นผู้ก่อเหตุ ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายของบ้านเมือง เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปตมหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก