เชียงใหม่ 3 พ.ค. – ที่เชียงใหม่ ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบวัยรุ่นชาวเขาและไทใหญ่รวมกลุ่มเป็นแก๊ง ใช้มีดและดาบซามูไรออกมาก่อเหตุ ทั้งชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายหรือแทงกันจนเสียชีวิตหลายคน ทำให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมทลายแก๊งวัยรุ่นเหล่านี้ ซึ่งพบมี 5-6 กลุ่ม เพื่อตัดตอนไม่ให้ขยายอิทธิพล สร้างความเดือดร้อน พร้อมประกาศคุมเข้มเยาวชนที่ออกบ้านหลัง 4 ทุ่ม โดยไม่มีเหตุอันควร เริ่มคืนนี้เป็นคืนแรก
ดาบซามูไรยาวเกือบ 1 เมตร 2 เล่ม พร้อมมีด เป็นอาวุธที่ตำรวจยึดได้จากวัยรุ่นแก๊งบังพีช พร้อมสมาชิกวัย 14-19 ปี รวม 11 คน ที่ถูกจับได้ยกแก๊ง หลังรุมทำร้ายเหยื่อชาย 2 คน และเด็กหญิง 1 คน ทุบรถมอเตอร์ไซค์เหยื่อพังเสียหาย หน้าร้านสะดวกซื้อย่านสันผักหวาน ในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อสัปดาห์ก่อน เพียงแค่เขม่นหลังถูกมองหน้า
ไม่กี่วันถัดมาตำรวจรวบวัยรุ่นชาวเขา สมาชิกแก๊งดาวร้ายที่ตระเวนใช้ดาบซามูไรจี้ชิงทรัพย์นักศึกษาและชาวบ้านย่านหลัง มช. ถึง 5 รายซ้อน และราวตี 3 เศษ เมื่อ 2 คืนก่อน วัยรุ่นไทใหญ่ แก๊งศรีบุญเรือง 4 คน ขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ทำร้ายวัยรุ่นไทใหญ่ 2 คน ตั้งแต่ถนนซุปเปอร์ถึงถนนข้างสถานีวิทยุเสียงสามยอด อำเภอสันทราย ใช้มีดแทงเหยื่อเสียชีวิต 1 คน บาด เจ็บอีก 1 คน ตำรวจตามจับได้ทั้งหมด อ้างแค่ไม่พอใจที่ถูกมองหน้า
นอกจากนี้ยังมีคดีที่เกิดขึ้นจากแก๊งวัยรุ่นชาวเขาและไทใหญ่ที่ตระเวนก่อเหตุช่วงกลางดึกอีกหลายครั้ง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าวัยรุ่นเหล่านี้มีอยู่ 5-6 กลุ่ม ทั้งแก๊งบังพีช ศรีบุญเรือง ฟ้าฮ่าม ดาวร้าย บีอาร์ และแก๊งโซฮอท มีสมาชิกแก๊งละ 5-20 คน รวมตัวแบบหลวมๆ แข่งมอเตอร์ไซค์และท้าทายกันผ่านโซเซียลด้วยความคึกคะนอง พฤติกรรมยังไม่เหมือนแก๊งซามูไรในอดีตที่ไล่ทำร้ายผู้คน แต่ต้องรีบตัดตอนไม่ให้สร้างอิทธิพลหรือก่อความเดือดร้อนให้สังคม
โดยตำรวจตั้งทีมปะฉะดะ 2 ชุด ชุดละ 10 นาย กระจายกำลังตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นในเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึงตี 4 ตั้งแต่ 3 เดือนก่อน หากพบรวมกลุ่มกันจะเข้าควบคุมตัวทำประวัติทันที และหากพบเป็นแรงงานต่างด้าวจะขึ้นบัญชี เมื่อทำผิดอีกจะประสานยกเลิกการทำงานทันที นอกจากนี้ยังใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก คุมเข้มเยาวชนในพื้นที่ 4 มุมเมืองในตัวเมืองเชียงใหม่และเขตรอยต่อ ที่ออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่ม โดยไม่มีเหตุอันควร เหมือนเคอร์ฟิวเยาวชน เริ่มคืนนี้คืนแรก
แม้จะเป็นรวมตัวของวัยรุ่นไม่กี่กลุ่ม แต่ด้วยวัยที่คึกคะนองและพฤติกรรมที่สร้างความเดือดร้อน หากไม่ป้องปรามอย่างจริงจัง อาจจะกลายเป็นภัยสังคมที่แก้ไขได้ยากในวันข้างหน้า.-สำนักข่าวไทย