อยุธยา 2 พ.ค.-อธิบดีกรมโรงงานฯ นำทีมขึ้นโรงพัก สภ.ภาชี ร้องตำรวจสืบสวนนำผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี มาดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา
ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ซ้ำ โกดังเก็บสารเคมีในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุดวันนี้นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ลงพื้นที่ อ.ภาชี ประชุมร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเกี่ยวกับเหตุไฟไหม้โกดังภาชี เพื่อหาสาเหตุและวิธีป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ขึ้นอีก
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 23.00 น. (1 พ.ค.) นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมพร้อมด้วย นายพรยศ กลั่นกรอง นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางจินดา เตชะศรินทร์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ได้เดินทางไปที่ สภ.ภาชี เพื่อลงบันทึกประจำ และร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนนำผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ มาดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งในข้อหาที่เกี่ยวข้อง
เหตุเพลิงไหม้โกงดังเก่า ครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณอาคาร 3 4 และ 5 เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมสถานการณ์ด้วยการฉีดโฟมและน้ำ จากการตรวจสอบบพว่า โกดังเก่าดังกล่าว ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ มีการลักลอบกองเก็บกากอุตสาหกรรมประเภท กรดเสื่อมสภาพ สารเคมีอันตราย และสารอื่นๆ จำนวนประมาณ 4,000 ตัน รวม 5 โกดัง
และก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุมาแล้วเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยเกิดเหตุที่อาคาร 1 และ 2 ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นการวางเพลิง โดยใช่ระเบิดเพลิง กระจายทั่วบริเวณอาคาร 1 2 และ 3 มีลักษณะเป็นภาชนะพลาสติกด้านล่างหล่อปูนซีเมนต์ภายในบรรจุน้ำมัน ดัดแปลงติดประทัดไล่นกไว้กับก้านธูปเป็นตัวจุดระเบิด และใกล้กันพบขวดแก้วบรรจุอลูมิเนียม พาวเดอร์ ซึ่งไม่เคยพบเห็นในโกดังนี้มาก่อน หากเกิดระเบิดอลูมิเนียม พาวเดอร์จะส่งผลให้ระเบิดมีความต่อเนื่องและมีความรุนแรงขึ้น ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของสถานีตำรวจภูธรภาชี
อธิบดีกรมโรงงานฯ ได้ส่งรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ ลงพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ บริเวณที่ทำการอำเภอภาชี และจุดที่ 2 โรงพยาบาลภาชี พบว่าค่า ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ที่ตรวจวัดไม่เกินตามประกาศประกาศกรมควบคุมมลพิษ เรื่องค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากค่าฝุ่นละอองมีค่าสูงกว่าค่ามาตรฐานในบรรยากาศทั่วไปค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ได้มีการอพยพผู้ป่วยและประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ ณ จุดเกิดเหตุโกดังภาชี อย่างใกล้ชิด
กระทั่งเวลา 00.33 น. ซึ่งผ่านไปกว่า 10 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ก็สามารถระงับเพลิงไหม้ภายในโกดังที่ 5 ได้แล้ว ยังเหลือโกดังที่ 4 ยังมีประกายไฟบางจุด ด้านนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานฯ ยังคงติดตามสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด หลังจากกลับจากสภ.ภาชี โดยเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงถอนกำลังออกจากพื้นที่.-517-สำนักข่าวไทย