สถาบันพระปกเกล้า 29 เม.ย.- “พริษฐ์” ห่วงกกต.ออกระบียบเลือกสว.แคบ อาจทำให้มีเรื่องร้องเรียนเยอะ ประกาศผลยืดเยื้อ สว.ชุดเดิมรักษาการยาว แม้ไม่มีอำนาจเลือกนายกฯ แต่มีสิทธิสรรหากก.องค์กรอิสระ จี้ขอกรอบเวลารู้ผลให้ชัด
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เตือนคณะก้าวหน้าที่เชิญชวนคนไปสมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.) อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายว่า ภาพรวมต้องทำความเข้าใจว่ากระบวนการคัดเลือกสว.ในปัจจุบัน ถูกตั้งคำถามเรื่องความชอบธรรม แม้สว.ชุดใหม่จะไม่มีอำนาจตามบทเฉพาะกาล และไม่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี แต่มีอำนาจอย่างอื่นอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การรับรอง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
“สว.ชุดใหม่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่จะมาจากการคัดเลือกกันเอง เข้าใจว่ากกต.ต้องทำงานภายใต้กรอบกติกาเช่นนี้ แต่สิ่งที่คาดหวังคือควรจะเปิดกว้างให้ประชาชนและผู้สมัครมากที่สุด แต่ระเบียบที่ออกมาทำให้แคบลง กลายเป็นว่าใครประสงค์ที่จะสมัครสว. ไม่สามารถพูดถึงแนวคิดของตนเองได้ นอกเหนือจากเอกสารแนะนำตัวที่มีแค่ 5 บรรทัดที่พูดถึงประสบการณ์ การที่ผู้สมัครสว. จะเผยแพร่เอกสารของตนเอง ไม่สามารถเผยแพร่ออนไลน์สู่สาธารณะได้ ให้ส่งเฉพาะคนที่สมัคร สว.เท่านั้น กลายเป็นว่าภายใต้กติกา ที่ไม่มีความชอบธรรมในโครงสร้าง ตามอำนาจอธิปไตยจากกกต.ยังออกระเบียบแคบลงอีก” โฆษกพรรรคก้าวไกล กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ระเบียบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ออกมา ยิ่งมีความเข้มงวดเท่าไหร่ ก็มีความสุ่มเสี่ยงว่าจะนำไปสู่ข้อร้องเรียนตามมา และการเลือกสว.ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาชัด แตกต่างจากการเลือกตั้งสส. ที่ระบุชัดว่าต้องประกาศผลในกี่วัน ดังนั้น ถ้าข้อร้องเรียนเกิดขึ้นมากและกกตไม่สามารถยืนยัน หรือไม่พร้อมจะยืนยัน ว่าการเลือกเป็นไปด้วยความทุจริตเที่ยงธรรม จะทำให้กระบวนการประกาศผลเลือกสว.ยืดเยื้อ และทำให้สว.ชุดปัจจุบันจะปฏิบัติหน้าที่ต่อและจะมีบทบาทสำคัญต่อในการกำหนดทิศทางประชาธิปไตยและทิศทางการเมืองไทยได้ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งมีความน่าเป็นห่วงและในการประชุมกรรมาธิการการเมือง ตนก็ขอความชัดเจนกับกกต. ว่าให้คำยืนยันกรอบเวลาในการสรรหาเรื่องสว.ได้หรือไม่.-312.-สำนักข่าวไทย