แจง พาลูกเที่ยวฮ่องกงช่วงสงกรานต์ ขอช่วยใจดีกันบ้าง

กระทรวงการต่างประเทศ 19 เม.ย.-“แพทองธาร” แจงดราม่า พาลูกเที่ยวฮ่องกงช่วงสงกรานต์ บอกนอกจากเป็น ปธ. Soft Power แล้ว ยังเป็นแม่และเมีย ขอช่วยใจดีกันบ้าง


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเดินทางไปฮ่องกง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งที่เป็นจุดเริ่มต้นของซอฟท์พาวเวอร์ แต่กลับไม่อยู่ร่วมงาน ว่าความจริงอยู่ร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. แล้ว โดยไปเปิดงานตามที่ต่างๆ และการจัดซอฟต์พาวเวอร์ปีนี้ เราวางยุทธศาสตร์ขึ้นมาว่าจะจัดงานแบบไหนและกระจายงานไปให้กระทรวงต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดเทศกาลครั้งนี้ ซึ่งเราก็เต็มที่ตั้งแต่ตอนประชุมมาเรื่อยๆ ซึ่งในปีนี้ ยังติดเรื่องงบประมาณ ดังนั้นปีหน้าก็มีบทเรียนแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อ

นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อว่า นอกจากการเป็น ประธานซอฟต์พาวเวอร์และหัวหน้าพรรคแล้ว ตนยังเป็นคุณแม่และภรรยา ก็จะพยายามทำทุกหน้าที่ให้สุดความสามารถจริงๆ แม้ว่าการทำงานที่ยุ่ง ก็ได้ทำความเข้าใจกับคนในครอบครัวเสมอ และคิดว่านี้เป็นช่วงปิดเทอมจึงอยากกใช้เวลากับครอบครัว ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีและงานก็ออกมายิ่งใหญ่ เพราะตนสนับสนุนทุกทางที่ทำได้


“ดังนั้นเรื่องของดราม่าต่างๆ และ hate speech ต่างๆ ก็อยากให้เข้าใจ เพราะคิดว่าผู้หญิงทุกคนทราบดีว่า การแบ่งเวลา ไม่ได้แบ่งได้ดีทุกวัน แต่มีวันไหนที่เราสามารถจะทำให้ได้ดีแล้ว ก็ขอความเข้าใจด้วย ขอให้ใจดีกันนิดนึง การทำงาน ก็ต้องเติมพลังไปด้วย และพลังของอิ๊งค์ก็คือครอบครัว จะดราม่าอย่างไรก็พร้อมรับฟัง และเมื่อถึงมาหน้าที่ของอิ๊งทำเต็มที่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนก็ตาม”นางสาวแพทองธาร กล่าว

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวถึง กรณีที่โพสต์ภาพครอบครัวพร้อมหน้า ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์  ว่า ตอนนั่งรับประทานอาหารร่วมกันในงานวันเกิดของนางสาวพิณทองทา ชินวัตร  ตนกับพี่สาวหันไปมองหน้ากันว่า คุณพ่อนั่งอยู่หัวโต๊ะ ซึ่งเป็นความไม่ชิน แต่ก็รู้สึกดีใจ เพราะก่อนหน้านี้ ตอนที่รับประทานอาหารร่วมกัน ก็มักจะพูดคุยกันเสมอว่าจะถ่ายรูปส่งไปให้คุณพ่อดูจะดีไหม แต่พี่สาวก็บอกว่าไม่ควรส่งไป เพราะเกรงว่าคุณพ่อซึ่งไม่ได้อยู่ด้วยจะเหงา ปีนี้ไม่ต้องแล้ว เพราะพ่ออยู่ตรงนี้ ซึ่งเป็นโมเมนต์ของครอบครัว และความจริงครอบครัว อิ้งค์สนิทกันมาก พึ่งพาซึ่งกันและกัน

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่นางสาวแพทองธารไม่ได้อยู่ร่วมงานสงกรานต์ ว่า เรื่องการเตรียมงานออกแบบยุทธศาสตร์ได้คุยมานานมากแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว จึงสามารถจัดวางให้กรุงเทพมหานครจัดงาน ได้และกระจายงานกันต่อ เมื่องานเดินหน้าไปได้ นางสาวแพทองธารก็ขอเวลา 3 วัน ที่สามารถพักผ่อนได้ ก็ขอไปพักผ่อนกับลูก ซึ่งคิดว่าสามารถไว้วางใจทุกส่วน.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่