คาดเงินเฟ้อกระเพื่อมเป็นบวกหลังรัฐทยอยลดอุดหนุนราคาพลังงาน

กรุงเทพฯ 19 เม.ย.-ภาครัฐทยอยลดการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดมีส่วนให้เงินเฟ้อไทยกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 2/2567  ด้านไทยพาณิชย์คาดเงินเฟ้อกลับเข้ากรอบ 1-3% ตั้งแต่ไตรมาส 3


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า  นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ปี 2563  ภาครัฐมีมาตรการอุดหนุนราคาพลังงาน ในประเทศอย่างต่อเนื่อง และปี 2565 ราคาพลังงานในตลาดโลกปรับสูงขึ้นมาก  จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศ ของภาครัฐส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อไทยต่ำกว่าการไม่มีมาตรการ   หากภาครัฐไม่มีการทยอยลดการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศจากระดับปัจจุบัน  อาจส่งผลให้ภาระต้นทุนของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย มีแนวโน้มกลับไปแตะที่ระดับสูงสุดเหมือนในปี 2565 อีกครั้ง โดยจากแนวทางที่ภาครัฐทยอยปรับลดการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศลง และปล่อยให้ราคาสะท้อนต้นทุนจริงมากขึ้น ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่เดือน พ.ค. 67  เป็นต้นไป  และคาดว่าจะมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 0.8% ในปี 2567

ทั้งนี้ ภาครัฐทยอยปรับลดการอุดหนุนราคาพลังงานลดลงจากปีก่อนหน้า โดยปัจจุบันค่าไฟฟ้างวดเดือนม.ค.-เม.ย.67 อยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย และงวดเดือนต่อไป (เดือนพ.ค.-ส.ค.67) ก็มีแนวโน้มจะถูกตรึงไว้ในระดับเดิมเช่นเดียวกับราคาก๊าซหุงต้มก็ยังตรึงอยู่ที่ 423บาท/ถังขนาด 15 กก. ไปจนถึงเดือนมิ.ย.67 ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 50สตางค์/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.67  ที่30.44 บาท/ลิตร และจะขยับขึ้นอีก 50 สตางค์ตั้งแต่ 20 เม.ย.


ซึ่งผลจากการอุดหนุนราคาพลังงานอย่างต่อเนื่อ งทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กองทุนฯ) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)มีภาระต้นทุนพลังงานและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น หากภาครัฐไม่มีการทยอยลดการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศจากระดับปัจจุบัน อาจส่งผลให้ภาระต้นทุนของกองทุนฯ และ กฟผ. มีแนวโน้มกลับไปแตะที่ระดับสูงสุดเหมือนในปี 2565 อีกครั้ง หากราคาดีเซลและก๊าซ LPG ยังคงได้รับการอุดหนุนเท่ากับในระดับปัจจุบัน  ก็มีความเป็นไปได้ที่ภายในไตรมาส 2/2567 กองทุนฯ อาจต้องเผชิญกับสถานะติดลบสูงถึง 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นระดับเดียวกับช่วงปี 2565 ที่สูงสุดในประวัติการณ์ (ภายใต้สมมติฐานว่าราคาพลังงานโลกไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน)

– ในขณะที่ค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft)หากมีการอุดหนุนในระดับใกล้เคียงกับงวดเดือนม.ค.-เม.ย.67 ก็มีความเป็นไปได้ที่ภายในสิ้นปี 2567 ภาระต้นทุนคงค้างของ กฟผ. จะเพิ่มขึ้นกลับสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงปี 2565 ที่มีภาระต้นทุนสูงถึง 1.5 แสนล้านบาทอีกครั้ง  ในขณะที่ภาระต้นทุนการดำเนินการจากการอุดหนุนพลังงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงประกอบกับหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาจจะเป็นจังหวะเวลาที่ภาครัฐจะทบทวนทยอยปรับลดการอุดหนุนราคาพลังงานลง โดยอาจพิจารณาสนับสนุนเฉพาะกลุ่มที่เห็นว่ามี ความจำเป็น อาทิ กลุ่มเปราะบางเพื่อที่ภาครัฐจะได้ฟื้นฟูฐานะทางการเงินสำหรับใช้รับมือในกรณีที่หากเกิดวิกฤตในอนาคต (buffer)

ขณะเดียวกันภาครัฐอาจมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างราคาพลังงานและสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนของภาคเอกชนมากขึ้น เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น เพื่อให้เกิดการลดต้นทุนพลังงานได้อย่างยั่งยืน


จากแนวทางที่ภาครัฐทยอยปรับลดการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศลงและปล่อยให้ราคาค่อยๆ สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง จึงส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่เดือนพ.ค.67 เป็นต้นไป หลังจากเผชิญการติดลบมานาน 6 เดือน ทั้งนี้ ในปี 2567 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยคาดว่าเฉลี่ยจะอยู่ที่0.8%

ด้าน ศูนย์วิจัย SCB EIC  ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ผ่านมาติดลบต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญจากราคาพลังงานที่ลดลงตามมาตรการช่วยค่าครองชีพภาครัฐ รวมถึงราคาอาหารสดลดลง อย่างไรก็ดี ความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรง ส่งผลให้ราคาพลังงานโลกกลับมาอยู่ในระดับสูงอีกครั้ง ประกอบกับมาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่กำลังจะหมดลง SCB EIC จึงประเมินว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะเป็นบวกได้ตั้งแต่เดือน พ.ค. และกลับเข้ากรอบ 1-3% ตั้งแต่ไตรมาส 3 /67 และคาดว่าจะเห็นคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย  2 ครั้งในปีนี้

เนื่องจาก 1) เป็นการรักษาสถานะความเป็นกลางของนโยบายการเงิน (Neutral stance) จากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ทำให้ระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว (Neutral rate) ลดต่ำลงจากเดิม และ 2) มติ กนง. ล่าสุดยังออกมาไม่เป็นเอกฉันท์ต่อเนื่อง และกรรมการเสียงส่วนน้อยให้เหตุผลเพิ่มเติมในการเสนอลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ เนื่องจากมองว่าจะสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้นแล้ว ยังจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้าง

ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่าเร็ว เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐหรือ Fed ยังคง Hawkish กว่าธนาคารกลางอื่น ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ในไตรมาส 2 เงินบาทจะยังเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่า จากดัชนีเงินดอลลาร์จะยังแข็งค่าตาม Fed ที่มีแนวโน้มจะเริ่มลดดอกเบี้ยช้าลง และเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกจากตลาดการเงินไทยในฤดูกาลจ่ายเงินปันผล มองกรอบเงินบาทอยู่ที่ 35.80 – 36.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสิ้นปีนี้ เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าเล็กน้อยในกรอบ 34.00-35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ -511 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ลำพูน กำชับทุกอำเภอติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ตระเวนตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมในจุดต่าง ๆ กำชับทุกอำเภอ ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด หลังบางจุดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว

แม่ค้าคนดังแจงทองของร้านแท้แน่นอน-ประกาศรับซื้อคืนทั้งหมด

แม่ค้าคนดังประกาศรับซื้อทองจากผู้เสียหายคืนในราคาเต็มที่ขายไปทั้งหมด ยอมรับเป็นความผิดพลาด ยืนยันร้านมีใบรับประกันและสามารถกลับมาขายที่ร้านได้ ราคารับซื้อขึ้นอยู่กับราคาทองคำ ณ วันนั้น

Police in South Africa arrest 'drug mule' with cocaine bullets inside stomach

แอฟริกาใต้โชว์แคปซูลโคเคนที่คนร้ายกลืนเข้าไปเต็มท้อง

โจฮันเนสเบิร์ก 23 ก.ย.- ตำรวจแอฟริกาใต้เผยแพร่ภาพแคปซูลบรรจุโคเคนที่ผู้ต้องสงสัยขนยาเสพติดข้ามชาติกลืนเข้าไปเต็มกระเพาะอาหาร และนำออกจากร่างกายได้เพียงบางส่วน ตำรวจแอฟริกาใต้จับกุมผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่สนามบินโออาร์ แทมโบ  ในนครโจฮันเนสเบิร์กเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หลังได้รับเบาะแสจากหน่วยข่าวกรองว่า จะมีคนนำยาเสพติดเข้าประเทศ ผู้ต้องสงสัยเป็นสตรีชาวนามิเบียวัย 30 ปีเดินทางมาจากนครเซาเปาลูของบราซิล ผลการตรวจค้นร่างกายไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ตำรวจจึงนำตัวไปเข้าเครื่องตรวจเอ็กซเรย์ และพบบรรจุภัณฑ์มีลักษณะคล้ายแคปซูลขนาดใหญ่รูปร่างเหมือนกระสุนอยู่เต็มกระเพาะอาหาร สันนิษฐานว่าภายในบรรจุโคเคน ตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยไปโรงพยาบาลเพื่อหาทางนำแคปซูลเหล่านั้นออกจากร่างกาย ล่าสุดนำออกมาได้แล้ว 63 แคปซูล โดยภาพของกลางที่ตำรวจนำมาโชว์นั้นเป็นแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น และขณะนี้ยังนำออกมาจากท้องของผู้ต้องสงสัยไม่หมด ทำให้ตำรวจยังไม่สามารถประเมินราคาของยาเสพติดดังกล่าวได้.-816(814).-สำนักข่าวไทย

รดน้ำศพอ๋อม อรรคพันธ์

บรรยากาศโศกเศร้า พิธีรดน้ำศพ “อ๋อม อรรคพันธ์”

บรรยากาศโศกเศร้า พิธีรดน้ำศพ “อ๋อม อรรคพันธ์” มีบุคคลในครอบครัว เพื่อนสนิท รวมถึงกลุ่มแฟนคลับ คนบันเทิงและผู้จัด ร่วมไว้อาลัย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลถอย แก้รัฐธรรมนูญประเด็นจริยธรรม

25 ก.ย. – เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลจะไม่เดินหน้าผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราประเด็นเรื่องจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและการใช้อำนาจขององค์กรอิสระแล้ว หลังพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย เปลี่ยนจุดโฟกัส มาทำงาน แก้ปัญหาอุทกภัยและกระตุ้นเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย

เกาะติดสถานการณ์แม่น้ำปิงล้นตลิ่ง จ.เชียงใหม่

เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงที่มวลน้ำระลอก 2 จากทางตอนเหนือที่ใกล้ลงสู่ลำน้ำปิง จะเดินทางไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ คาดว่าจะทำให้ระดับน้ำปิงขึ้นสูงสุดถึง 5.02 เมตร ส่งผลให้น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่เพิ่มขึ้น

ตัดใจฆ่าจระเข้ยกบ่อ หวั่นหลุดซ้ำเติมผู้ประสบภัย

ชาวเน็ตและผู้คนโดยเฉพาะชาวลำพูน ต่างชื่นชมและขอบคุณในความใจเด็ดของเจ้าของฟาร์มจระเข้ ที่ตัดสินใจช็อตจระเข้กว่า 100 ตัว เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด หากจระเข้หลุดจากบ่อจะไปซ้ำเติมผู้ประสบอุทกภัยให้เดือดร้อน