เชียงใหม่ 12 เม.ย. – “คุณหญิงสุดารัตน์” ลุยให้กำลังใจชาวเชียงใหม่ พูดคุยผู้ค้าเรื่องเงินหมื่น ระบุเป็นเสียงเดียวกันอยากได้เป็นเงินสด เชื่อเกิดประโยชน์กับคนตัวเล็กกว่า ผวาเกณฑ์ภาษีเงื่อนไขไม่เข้าร่วมโครงการ วอนรัฐทบทวนผู้ได้รับสิทธิ หลังผู้ค้าโอดขายของมาทั้งชีวิตกว่าจะมีเงินเก็บ 5 แสน แนะยึดหลักความเข้าใจประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าอย่างแท้จริง เดินหน้าทำโครงการ
ค่ำวานนี้ (11 เม.ย.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ตลาดจังหวัดเชียงใหม่ เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยจากฝุ่นพิษ PM 2.5 ต่อเนื่องยาวนานหลายเดือน รวมถึงพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านค้ารายเล็ก หลังรัฐบาลแถลงข่าวความพร้อมเตรียมเดินหน้าโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยจะเปิดให้ยืนยันสิทธิในไตรมาส 3 และเติมเงินเข้าระบบในไตรมาสที่ 4
คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับพ่อค้าแม่ขาย พบว่าผู้ค้าภายในตลาดที่เข้าเกณฑ์มีสิทธิรับเงิน ระบุในทิศทางเดียวกันว่ายินดีรับเงินที่รัฐบาลนำมาแจก แต่อยากให้แจกเป็นเงินสด ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับคนตัวเล็กมากกว่า โดยเฉพาะสินค้าที่ขายในตลาดเป็นสินค้าที่มาจากชาวบ้านโดยตรง ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีตามที่รัฐกำหนด ซึ่งการกำหนดเกณฑ์ผู้ค้าที่มีเรื่องภาษีเข้ามาเป็นเงื่อนไขนั้น ผู้ค้าส่วนใหญ่เชื่อว่าท้ายที่สุดผู้ประกอบการรายใหญ่จะได้ประโยชน์มากกว่าคนตัวเล็ก
คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยด้วยว่า ยังมีเสียงสะท้อนจากผู้ค้ารายเล็กอีกไม่น้อยที่ระบุว่าต้องการให้รัฐบาลทบทวนเกณฑ์ผู้มีสิทธิได้รับเงิน โดยเฉพาะเงื่อนไขของผู้ที่มีเงินฝากเกิน 500,000 บาท จะไม่มีสิทธิได้รับการเติมเงิน 10,000 บาท ทั้งที่คนตัวเล็ก พ่อค้าแม่ขายรายย่อยจำนวนไม่น้อยต้องเก็บหอมรอมริบ ทำงานค้าขายด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอดชีวิต ทั้งยังเป็นผู้เสียภาษีช่วยรัฐนำไปพัฒนาประเทศ ควรได้รับสิทธิเช่นกัน
ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลทบทวนเงื่อนไขการเดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท โดยยึดหลักความเข้าใจพี่น้องประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเป้าหมายหลักของรัฐบาล คือการทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รูปแบบของการเติมเงินต้องเป็นเงินสดจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่า หลายรอบกว่า เป็นประโยชน์กับผู้ค้าที่ไม่ได้มีสายป่านยาวมากกว่า และสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวบ้านได้อย่างแท้จริง.-312-สำนักข่าวไทย