พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฉบับใหม่ ความหวังแก้ปมหนี้ กยศ.

กรุงเทพฯ 10 ส.ค.-หลังพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมา จึงมีการเร่งเตรียมระบบให้นายจ้างสามารถหักเงินเดือนผู้กู้ยืมเพื่อคืนกองทุนได้ ซึ่งคาดว่ากองทุนจะเริ่มให้นายจ้างสามารถหักเงินได้ภายในปลายปีนี้



กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. แหล่งเงินทุนต่อยอดโอกาสทางการศึกษาให้เด็กกว่า 5.2 ล้านคน เป็นเงินกว่า 550,000 ล้านบาท แต่โอกาสที่มอบให้อาจไม่ถูกส่งต่อ เพราะมีผู้กู้เบี้ยวหนี้ถึง 2.1 ล้านราย หนี้เสียรวมกว่า 62,000 ล้านบาท เฉพาะปีนี้ฟ้องร้องผู้กู้อีก 140,000 คน


“นัตตี้” คอลัมนิสต์ กู้เงิน 250,000 บาท เรียนต่อมหาวิทยาลัย เนื่องจากค่าเทอมสูง ครอบครัวไม่พร้อม บอกว่าจ่ายเงินทุกครั้งเมื่อครบกำหนด เพราะรู้ดีว่า มีน้องๆ ยังรอกู้เงิน ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ มีทั้งข้อดีเเละข้อเสีย เเนะ กยศ.ก่อนออกเกณฑ์หักเงินควรประเมินผู้กู้เป็นกรณีไป เพราะเเต่ละคนมีภาระที่ต่างกัน ทั้งผู้กู้บางส่วนไม่ทำงาน การติดตามหนี้อาจไม่ครอบคลุม

สถิติเปรียบเทียบ 2 ปีย้อนหลัง พบมีผู้กู้ชำระหนี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 แต่ที่ไม่ชำระหนี้และติดตามตัวยากยังมีมาก พ.ร.บ.ใหม่ จึงเป็นกุญเเจไขปัญหา สาระสำคัญให้อำนาจขอข้อมูลส่วนตัวผู้กู้ยืมจากบริษัททั้งภาครัฐ-เอกชน ประกันสังคมและกรมบัญชีกลาง จากนั้นแจ้งนายจ้างให้หักเงินเดือน เพื่อส่งกรมสรรพากรเช่นเดียวกับการหักภาษี ณ ที่จ่าย คาดว่าจะดำเนินการได้ในปลายปีนี้


ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมระบบนำส่งเงินชำระหนี้ เร่งออกกฎกระทรวงรองรับ พ.ร.บ. กำหนดแนวปฏิบัติเพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรนายจ้าง

ส่วนการเลือกผู้กู้ที่มีคุณภาพ จากเดิมที่สถานศึกษาจะคัดกรอง กยศ.มีเเนวคิดคัดเอง โดยใช้เเบบประมวลผลรวม เพื่อเลือกผู้กู้ที่มีคุณภาพมากที่สุด ทั้งปรับระบบเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานอื่นๆ สะดวกตรวจสอบการกู้ยืมและการติดตามหนี้อย่างเป็นระบบ ส่วนผู้กู้ที่โดนฟ้องไม่ต้องกังวล สามารถผ่อนจ่ายได้

ปีนี้ กยศ.ปล่อยกู้ให้ผู้กู้เกือบ 800,000 คน เป็นเงิน 34,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นปีเเรกที่ กยศ.นำเงินชำระหนี้มาปล่อยกู้ได้หมด โดยไม่ต้องขออนุมัติเงินจากสำนักงบประมาณเพิ่มเติม เป็นสัญญาณที่ดี ให้เด็กรุ่นหลังได้กู้เงินต่อ และสะท้อนถึงความรับผิดชอบของคนวัยทำงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์