นนทบุรี 27 มี.ค.-กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัด “มหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ”ให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพย์หลักประกัน พร้อมดึงสถาบันการเงิน มาให้คำแนะนำแบบครบวงจร เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น มีอีกช่องทางภายใต้ “กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558” ที่เปิดโอกาสให้สามารถใช้ ทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา หรือ ต้นไม้ ที่เป็นไม้ยืนต้น มาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อได้
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัด “มหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ”ให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพย์หลักประกัน พร้อมดึงสถาบันการเงินมาให้คำแนะนำแบบครบวงจร ซึ่งไฮไลท์ภายในงาน มีสถาบันการเงิน มาให้คำแนะนำและให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยเครดิต บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) รวมทั้งสมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย มาร่วมให้บริการประเมินราคาทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อ
ทั้งนี้ ยังรวมทั้งบูธให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพย์หลักประกัน ตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 เช่น กรมทรัพย์สินทางปัญญา จะแนะนำหลักประกัน ที่เกี่ยวกับ เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ และสิทธิบัตร กรมเจ้าท่า แนะนำสังหาริมทรัพย์ อย่าง “เรือ” กรมโรงงานอุตสาหกรรม แนะนำการใช้ ”เครื่องจักร“ เป็นหลักประกัน กรมการขนส่งทางบก แนะนำการใช้ “รถยนต์” เป็นหลักประกัน รวมทั้งการให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์หลักประกันประเภท “ไม้ยืนต้น” จากกรมป่าไม้ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และธ.ก.ส.รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการประเมินราคา และการเจรจาจับคู่ธุรกิจ
นอกจากนี้ ในงานยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมเจ้าท่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมการขนส่งทางบก เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Secured) อำนวยความสะดวกให้ขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และลดการเดินทาง และมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP – และผู้ประกบอการฟู้ดทรัค ช่วยสร้างรายได้ให้ SME และขยายฐานลูกค้า
อย่างไรก็ตาม นโยบายเร่งด่วนในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เน้นสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SME โดยมีเป้าหมายผลักดันการเพิ่มสัดส่วน GDP SME ของไทยจาก 35.2% เป็น 40% ภายในปี 2570 สิ่งสำคัญคือ เงินทุน ซึ่งกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ สามารถนำทรัพย์สินอื่นนอกเหนือจาก อสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์นำมาเป็นหลักในการขอสินเชื่อได้ โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินด้วย เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยคาดการณ์ว่า การจัดงาน ระหว่างวันที่ 27-28 มีนาคม 2567 บริเวณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 3 และตลาดนัดสวัสดิการ กระทรวงพาณิชย์ จะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1,000 คน มียอดการจับจ่ายสินค้าภายในงานกว่า 1.8 ล้านบาท
ส่วนกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ที่ใช้มาแล้ว 9 ปี มีผู้ประกอบการ ยื่นจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ แล้วกว่า 820,000 ราย รวมสินเชื่อที่ปล่อยกู้กว่า 18.6 ล้านล้านบาท ถือเป็นเม็ดเงินที่สูงมาก โดยทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันได้ มี 6 ประเภท ได้แก่ (1) กิจการ (2) สิทธิเรียกร้อง เช่น สิทธิการเช่า ลูกหนี้การค้า (3) สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น สินค้าคงคลัง วัตถุดิบ (4) อสังหาริมทรัพย์ เฉพาะกรณีที่ผู้ให้หลักประกันประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง (5) ทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า และ (6) ทรัพย์สินอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ก็คือ ไม้ยืนต้นอีกด้วย.-514-สำนักข่าวไทย