รัฐสภา 25 มี.ค.-“ธรรมนัส” แจงไม่ได้ร่วมงาน พปชร. เหตุติดราชการต่างประเทศ เผย นายกฯ ไม่ติดใจกระแสคว่ำ พ.ร.บ.งบฯ 67 ดัน “บิ๊กป้อม” นั่งนายกฯ แทน
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึง การไม่ปรากฎตัวในงานบวงสรวงพรรคพลังประชารัฐ ที่ทำให้ถูกตั้งคำถามถึงอนาคตทางการเมืองกับพรรค ว่า เนื่องจากตนลาราชการไปต่างประเทศ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 มี.ค. และได้ลาล่วงหน้าไว้แล้ว ยืนยันว่า ไม่มีประเด็นใด
ส่วนที่โซเชียลฯ วิพากษ์วิจารณ์ว่าไปรับนายกรัฐมนตรี งานพรรคอื่นไป แต่งานพรรคตัวเองไม่ไปนั้น ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ไม่ เพราะมีการประชุมสส. พรรคทุกวันพุธ และตนมีลงพื้นที่กับสส.และอดีตผู้สมัครตลอดเวลา ดังนั้นการทำงานของพรรคไม่จำเป็นต้องนั่งประชุมอยู่ในห้องแอร์โดยใช้จินตนาการ ไม่ใช่การทำงานของตน เพราะ “ผมภาคสนาม”
ทั้งนี้มองอย่างไรที่บางสื่อฯ พาดหัวข่าวถึงเกมการเมืองคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพื่อดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายเศรษฐา ทวีสิน นั้น ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า อยู่ต่างประเทศ รู้ข่าวพร้อมสื่อมวลชนและเมื่อตรวจสอบไปยัง สส. ของพรรค ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ติดใจและไม่ได้สอบถามตนเรื่องนี้
ส่วน พล.อ.ประวิตร ได้สอบถามกระแสข่าวดังกล่าวว่าออกมาอย่างไรหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เพิ่งกลับมาเมื่อคืน ยังไม่ได้เจอหัวหน้าพรรค ซึ่งเจอพล.อ.ประวิตร ครั้งล่าสุดเมื่อวันประชุมพรรค ก่อนไปประชุม ครม.สัญจรที่ จ.พะเยา
ส่วนยืนยันยังเป็นน้องที่น่ารักของพล.อ.ประวิตรเหมือนเดิมหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมเป็นน้องที่น่ารักของพี่ๆ ทุกคน และเป็นพี่ที่น่ารักของน้องๆ ทุกคน”
สำหรับกระแสข่าวปรับครม. ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ในโควตารัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ยังว่างอยู่ 1 ตำแหน่งนั้น ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี คงจะสนับสนุนท่านเดิม คือนายไผ่ ลิกค์ สส. กำแพงเพชร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติอยู่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ไม่สามารถพูดได้ แต่ไม่ร้ายแรง และคิดว่าจะลงมาเร็วๆ นี้ ยืนยันไม่มีเปลี่ยนตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่หัวหน้าพรรคกำชับมาโดยตลอด ขณะที่รัฐมนตรีท่านอื่นของพรรคก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ส่วนจะถือว่าเป็นการส่งสัญญาณปรับ ครม. หรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ที่จะปรับหรือไม่ปรับ ไม่อาจทราบได้ เราในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ทำตามนโยบาย ท่านคุยถึงนโยบายของกระทรวงไม่มีเรื่องการเมือง.-317.-สำนักข่าวไทย