ภูเก็ต 23 มี.ค. – หลังวานนี้ (22 มี.ค.) สำนักข่าวไทยตีแผ่ปัญหาชาวต่างชาติแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบนักท่องเที่ยว เพื่อเข้ามาทำธุรกิจ โดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ตั้งแต่การเปิดร้านให้เช่ารถบริการ ขับรถแท็กซี่เอง ไปจนถึงการลักลอบเปิดร้านขายกัญชา โดยใช้คนไทยบังหน้า วันนี้ตามต่อถึงปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ต่อมิติด้านสังคม ซึ่งระยะหลังพบว่าต่างชาติเหล่านี้มักไม่เกรงกลัวกฎหมายไทย
นี่คือภาพเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าตองพยายามเข้าจับกุมตัวนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่ทำผิดกฎหมายจราจร แต่ไม่เพียงผู้กระทำผิดขัดขืนต่อต้านการจับกุม กลุ่มเพื่อนชาวฝรั่งเศสที่อยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกันยังช่วยกันส่งเสียงโห่ไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติงาน แบบไม่ได้มีความยำเกรงต่อเจ้าหน้าที่รัฐและกฎหมายเมืองไทยแต่อย่างใด
โดยที่ผ่านมานักท่องเที่ยวฝรั่งเศสมักเป็นกลุ่มที่ขึ้นชื่อว่าชอบรวมตัวกันก่อความวุ่นวายมากที่สุด โดยเฉพาะการซิ่งรถจักรยานยนต์แบบประมาทหวาดเสียว บีบแตรส่งเสียงดังไปตามท้องถนน สร้างความหวาดกลัวให้กับทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวด้วยกันเอง เช่นเดียวกับปัญหาต่างชาติเมาแล้วก่อเหตุทะเลาะวิวาท ซึ่งผู้ประกอบการในพื้นที่บอกว่าปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญ เชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากร้านกัญชาที่มีมากและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย
ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือปัญหาการฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ทั้งการขับรถเร็ว ขับรถย้อนศรขับรถในทางห้าม ตามทางลอดอุโมงค์ ซึ่งพบว่าคนไทยเองมักกระทำผิดเช่นเดียวกับเหตุการณ์ล่าสุดที่ 2 พี่น้องชาวนิวซีแลนด์ขับรถเร็วจนถูกตำรวจ สภ.ฉลอง ไล่ติดตามให้หยุด แต่กลับต่อสู้ด้วยการล็อกคอ พร้อมแย่งอาวุธปืนจากตำรวจ เมื่อจนแต้มยังต่อรองขอติดสินบนเจ้าหน้าที่ แลกกับการปล่อยตัวคือตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต่างชาติไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวกฎหมายไทย
แต่มองว่ากฎหมายไทยสามารถเคลียร์ได้ เข้าข่ายจับจ่ายจบ ยิ่งบางกรณีที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปพัวพันด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ต่างชาติมีความลำพองใจ และไม่ยำเกรงกฎหมายยิ่งขึ้น โดยในมุมของผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ต มองว่านโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นต้นตอของปัญหาตอนนี้ เพราะทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้คุณภาพ หรือแม้กระทั่งอาชญากรบางกลุ่ม ฉวยโอกาสนี้ในการมาแสวงหาผลประโยชน์ ทั้งการแย่งอาชีพคนไทย และสร้างความวุ่นวายในหลายรูปแบบ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ระบุว่านับจากเดือนตุลาคม 66 ถึงปัจจุบัน เพียง 5 เดือน มีต่างชาติในภูเก็ตที่ทำผิดกฎหมายถูกดำเนินคดีไปแล้ว 400 คดี มีการเพิกถอนวีซ่าไปแล้ว 95 คน มีทั้งชาวจีน รัสเซีย อินเดีย ออสเตรเลีย อังกฤษ และเมียนมา ทั้งในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ลักทรัพย์ ครอบครองยาเสพติด และการลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้อาจเป็นเพียงส่วนน้อยนิด เมื่อเทียบกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในตอนนี้ ซึ่งพบเห็นได้แบบรายวัน และหากรัฐยังเพิกเฉย ไม่เร่งจัดการแก้ไขอย่างจริงจัง อนาคตภูเก็ตอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้.-สำนักข่าวไทย