กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ซีไอเอ็มบี ไทย ห่วงการส่งออกไทยโตต่ำสุดในอาเซียน เร่งเอกชนลงทุนพัฒนานวัตกรรม ฟื้นศักยภาพส่งออกไทย
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า การส่งออกไทยในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ ร้อยละ 5 จากเดิมคาดว่าโตร้อยละ 3.1 แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกส่งออกขยายตัวได้สูงถึง ร้อยละ 7 เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ขณะที่สินค้าหลักทั้งยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ยังเติบโตไม่เต็มที่ ดังนั้นการส่งออกของไทยจึงยังขยายตัวได้ต่ำสุดในภูมิภาคอาเซียน ที่ส่วนใหญ่ขยายตัวเกินร้อยละ 10 ซึ่งการที่จะทำให้การส่งออกของไทยกลับมาขยายตัวเต็มศักยภาพ ต้องมีการพัฒนาสินค้าส่งออกให้มีนวัตกรรม และอยู่ในห่วงโซ่อุปทานของตลาดโลก โดยปัจจัยสำคัญจะต้องมีการลงทุนจากภาคเอกชน ซึ่งในใตรมาส 1/60 การลงทุนภาคเอกชนยังติดลบ ร้อยละ 1.1 และคาดว่าในไตรมาส 2 จะติดลบใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 1 ซึ่งการลงทุนจะเกิดขึ้นจะต้องมีความต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐ เพื่อให้นักลงทุนเชื่อมั่น โดยคาดการณ์ว่าการลงทุนภาคเอกชนจะกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้ได้
สำหรับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นร้อยละ 7 จากต้นปีที่ผ่านมานั้น ยอมรับว่ามีผลต่อการส่งออกของไทย แต่ไม่ใช้ปัจจัยหลัก โดยผู้ส่งออกต้องปรับตัวพัฒนาสินค้าให้มีนวัตกรรม เพื่อให้หลุดพ้นจากกับดักค่าเงิน โดยค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น มาอยู่ที่ 32.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้ในระยะสั้น เพราะยังมีเงินทุนไหลเข้า จากความไม่ชัดเจนของนโยบายของสหรัฐ แต่มองว่าจะกลับมาอ่อนค่าได้ถึง 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปี เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ จะลดขนาดงบดุล และมีความชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะทำให้เงินทุนไหลออกจากไทย
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ซีไอเอ็มบีไทย ยังคงเป้าจีดีพีไว้ที่ ร้อยละ 3.2 แต่มีโอกาสปรับสูงขึ้น หากการส่งออกขยายตัวดี และการลงทุนภาครัฐกลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกครั้ง รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวดีขึ้น โดยหากทุกอย่างเป็นไปตามคาด จะทำให้จีดีพีขยายตัวได้ ร้อยละ 3.5 ตามธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ .- สำนักข่าวไทย