สภาการศึกษา 8 ส.ค.-บอร์ดปฏิรูปการศึกษา เห็นพ้องปรับแก้กฎหมายการศึกษาทั้งระบบเพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นรูปธรรม เตรียมลงพื้นที่รับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนก่อนยกร่างกฎหมายการศึกษาใหม่ ย้ำไม่รื้อโครงสร้างกระทรวงศึกษา แต่จะทำให้เป็นระบบมากขึ้น
ศ.กิตติคุณนพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ครั้งที่ 11/2560 ว่า ที่ประชุมได้มีการเสนอกรอบแนวคิดการปฏิรูปการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับโรงเรียน ครู และสถานศึกษาเป็นศูนย์กลาง โดยที่ประชุมเห็นพ้องให้มีการปรับแก้กฎหมายการศึกษาทั้งระบบเพื่อให้การดำเนินงานปฏิรูปการศึกษาเป็นรูปธรรม แม้ปัจจุบันจะมี พ.ร.บ.ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว แต่กลับไม่สามารถนำมาปฏิบัติให้สัมฤทธิ์ผลได้ โดยจะมีการปรับบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน โดยก่อนจะมีการปรับกฎหมาย จะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษาทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาเด็กเล็ก การปรับโครงสร้างการบริหารของกระทรวงศึกษาธิการ การจัดตั้งกองทุนการศึกษา พัฒนาการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาครู ซึ่งครั้งแรกจะจัดขึ้นวันที่ 16 สิงหาคมนี้ และดำเนินรับฟังความเห็นให้ครบทั้ง 4 ภาค ก่อนจะนำไปข้อคิดเห็นไปรวบรวม สังเคราะห์และยกร่างเป็นกฎหมายใหม่
ขณะที่ในวันที่ 21 สิงหาคมคณะอนุกรรมการจะมีการลงพื้นที่รับฟังความเห็น เรื่องการจัดทำกฎหมายกองทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของเด็กเล็กในครอบครัวยากจน นักเรียนพิการ นักเรียนยากจน และนักเรียนที่ออกกลางคัน ที่จังหวัดสุรินทร์ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีสถิติเด็กจบ ม. 3 แต่ไม่เรียนต่อเป็นจำนวนมาก ก่อนจะมีการเดินสายรับฟังความคิดเห็นในภาคเหนือในเดือนกันยายน และภาคกลางในเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ ในส่วนที่มีบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่าจะมีการรื้อระบบโครงสร้างการบริหารงานฝ่ายในกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันว่าไม่ใช่การรื้อ แต่มีแนวคิดที่จะปรับการบริหารให้เป็นระบบมากขึ้น โดยเน้นหลักการกระจายอำนาจ ถ่วงดุลย์อำนาจ และการบริหารงานอย่างมืออาชีพ ส่งเสริมให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลาง โดยจะแยกระบบการศึกษาเป็น 3 ฝ่ายได้แก่ฝ่ายนโยบาย ฝ่ายปฏิบัติ และฝ่ายกำกับติดตามการดำเนินงาน.-สำนักข่าวไทย