อุบลราชธานี 16 มี.ค.-รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจด่านช่องเม็ก อุบลฯ เร่งแก้ปัญหาแออัดหน้าด่าน หวังอำนวยความสะดวกการค้า พร้อมเรียกประชุม 3 ฝ่าย แก้ปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลัง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ตนได้ประชุมร่วมกับจังหวัดประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบล หัวหน้าด่านศุลกากร ผู้แทนกรมธนารักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้นำผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ประกอบด้วยปลัดกระทรวงพาณิชย์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้ตรวจราชการ และผู้แทนกรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ตรวจเขตราชการของสำนักงานปลัดสำนักนายก ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเขตตรวจที่ตนรับผิดชอบ
ทั้งนี้ การนำคณะลงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อรับฟังปัญหาเกี่ยวกับความแออัดของรถบรรทุกในช่วงที่มีการนำเข้าสินค้ามันสำปะหลังจากประเทศลาว ซึ่งหลายหน่วยงานได้รายงานเกี่ยวกับข้อเท็จจริงซึ่งพบว่าเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและอยู่ในขั้นตอนของศาลที่เกี่ยวข้องกับการขยายพื้นที่ที่อาจจะกระทบกับพี่น้องประชาชน บริเวณหน้าด่านซึ่งตนได้มอบหมายให้สมาชิกสภาผู้แทน เข้าดูแลพี่น้องประชาชน โดยให้คำนึงถึงการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าทั้งของประชาชนและการค้าชายแดน
สำหรับปัญหาการนำเข้ามันสำปะหลัง โดยเห็นว่าความต้องการมันสำปะหลังของโลกยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณการเพาะปลูกในประเทศยังไม่เพียงพอจึงต้องมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันกับหลายหน่วยงาน ซึ่งต้องมีการใช้ความระมัดระวัง โดยภาครัฐจะต้องมีการดูแลในเรื่องของการนำเข้ามันสำปะหลังผ่านด่านชายแดน เพราะมีความกังวลถึงเรื่องโรคใบด่าง ที่เริ่มต้นมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การแก้ไขปัญหายังไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด โดยจะต้องมีการดูแลในเรื่องของการเพาะพันธุ์ที่มีความทนทานกับโรคให้มากขึ้น หลายหน่วยงานกำลังอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหา กระทรวงพาณิชย์ซึ่งถือเป็นหน่วยงานปลายทางในเรื่องของการค้าขายมีความกังวลในเรื่องของการนำเข้าหากมีการนำโรคเข้ามาด้วยจะส่งผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมกับภาคเอกชน ที่ได้มีการคิดค้นมันที่มีความทนทานต่อโรค โดยยังต้องหาข้อสรุปว่าหลังจากนี้เกษตรกรจะต้องมีการใช้พันธุ์ สำหรับเกษตรกรจะใช้พันธุ์จากหน่วยงานใดเพื่อแก้ไขปัญหาโรคในอนาคตโดยไม่สามารถปล่อยไปได้ เพราะหากทำให้โรคกระจายไป จะไม่สามารถควบคุมหรือทำลายได้โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์รวมถึงอธิบดีที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกันแล้ว นอกจากนี้ยังต้องมีการหารือทำความเข้าใจกับผู้นำเข้า ประชาชนรวมถึงเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อดูแลไม่ให้กระทบระหว่างกัน หากสามารถจับมือกันได้ ก็จะเป็นเรื่องดี โดยให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ประสานงานต่อไป โดยกำชับให้กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างจุดสมดุลกันต่อไป.-514-สำนักข่าวไทย