“พล.อ.อ.ประจิน” รองนายกรัฐมนตรี ตรวจน้ำท่วม จ.นครพนม

กรุงเทพฯ 5 ส.ค.-“พล.อ.อ.ประจิน” รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่น้ำท่วม จ.นครพนม เชิญชวนทุกภาคส่วนเป็นจิตอาสาช่วยผู้ประสบอุทกภัย


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยคณะ เดินทางไปยัง อบต.หนองสังข์ อ.นาแก จ.นครพนม ด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อสำรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ เมื่อคณะเดินทางไปถึง นายสมชาย  วิทย์ดำรง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายเมธา ชูจันทร์ นายอำเภอนาแก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการของจังหวัดนครพนม พร้อมทั้งหน่วยทหารและตำรวจในพื้นที่ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยของจังหวัดนครพนมที่เกิดจากพายุ “เซินกา” สรุปได้ว่า มีอำเภอที่ได้รับผลกระทบรวม 10 อำเภอ ซึ่งได้ประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติแล้ว อย่างไรก็ตามทางจังหวัดนครพนมได้เตรียมการล่วงหน้า หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนจากทางราชการ จึงทำให้สามารถประกาศเตือนภัยให้แก่ประชาชนได้รับทราบ รวมทั้งเตรียมการอพยพและเคลื่อนย้ายราษฎร สัตว์เลี้ยง สิ่งของ ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยได้เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ได้มีการระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มว่าระดับน้ำเริ่มลดลงจึงได้วางแผนเตรียมการฟื้นฟูภายหลังน้ำลดในทันที


พล.อ.อ.ประจิน กล่าวในที่ประชุมว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยในปัญหาอุทกภัยครั้งนี้เป็นอย่างมาก จึงขอให้ทุกส่วนราชการได้ร่วมกันช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ช่วยกันสร้างการรับรู้เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และเชิญชวนทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมเป็นจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบความเดือดร้อนในขณะนี้ไปจนถึงการฟื้นฟูต่อไป


จากนั้นคณะของรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังวัดสระพังทอง หมู่ 1 ต.หนองสังข์ อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีฝากแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน และรัฐบาลจะทำทุกอย่างร่วมกับทุกภาคส่วนที่เป็นจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยจะดำเนินการตามพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงตรัสแก่รัฐบาลว่า “ให้ช่วยเหลือประชาชนให้ดีที่สุด” ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้กำลังใจพร้อมทั้งมอบเงินในนามของชมรมภูมิพลังแผ่นดินและสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี จำนวน 100,000 บาท และถุงยังชีพ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว