อุดรธานี 18 ก.พ.- รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ยอมรับยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ พบพื้นที่อีสานตอนบน มีความรุนแรงมากสุด ทะลักตามแนวชายแดนครั้งละนับแสนเม็ด พร้อมย้ำนโยบายปราบปรามยาเสพติด แยกผู้เสพ-ผู้ค้า ออกจากกัน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ เดินทางมาให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายปกครองและตำรวจในจังหวัดอุดรธานี ยอมรับว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด รัฐบาลมีนโยบายจะจัดการภายใน 1 ปี ทุกฝ่ายยอมรับว่าต้องแก้ระดับครอบครัว จากที่เราแก้ประมวลกฎหมายยาเสพติด เมื่อปี 64 ผู้เสพสมัครใจรับการบำบัด หากไม่สมัครใจก็เข้ากระบวนการยุติธรรม ตรงนี้เป็นช่องว่างสำคัญ เพราะผู้เสพไม่สมัครใจบำบัด เมื่อถูกจับก็ส่งฟ้องอัยการ ฟ้องศาล ศาลสั่งให้คุมประพฤติ แต่คุมประพฤติไม่มีห้องขัง ปล่อยตัวให้กลับบ้าน
ล่าสุดพบว่า พื้นที่อีสานตอนบน มีความรุนแรงของยาเสพติดมากที่สุด จากการทะลักมาตามแนวชายแดน แม้ไม่ได้จับกุมจำนวนมากเหมือนภาคเหนือ โดยตัวเลขจนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 อีสานตอนบนถูกคุมประพฤติคดียาเสพติด 119,563 คน โดย จ.อุดรธานี มีอยู่รวม 12,814 คน เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า พร้อมย้ำเรื่องนโยบายที่เกี่ยวกับการปราบปรามยาบ้า แยกผู้เสพและผู้ค้าออกจากกัน ตามนโยบายรัฐ
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ในเรือนจำกลางอุดรธานี มีผู้ถูกคุมขังเป็นคดียาเสพติดมากถึง 80% ยังไม่รวมผู้เสพ-ผู้ค้า ที่ยังไม่ถูกจับกุมหรือคุมประพฤติ เราให้โจทย์ไปว่า ทำไมยาเสพติดระบาดมากในพื้นที่อีสานตอนบน เพราะยาเสพติดเหล่านี้กองอยู่ฝั่งโน้น แล้วข้ามมาระบาดครั้งละแสนๆ เม็ด อีสานตอนบนจึงเหมือนเป็นเมืองหลวงยาเสพติด อุดรธานีเป็นสาขาของเมืองหลวง พวกเราจึงต้องลุกขึ้นมาช่วยแก้ปัญหา ตนเองได้ไป สปป ลาว และจีน คุยเรื่องสกัดสารตั้งต้น สถานการณ์น่าจะดีขึ้น.–สำนักข่าวไทย