ดีเอสไอ 1 ก.พ. – DSI ตรวจค้น 27 จุด เครือข่าย “โกฟุก” ฟอกเงินจากพนันออนไลน์เงินหมุนเวียนหลักพันล้านบาท ออกหมายจับผู้ต้องหา 18 ราย ขยายผลโกงภาษีน้ำมัน เสียหายรวมกว่าหมื่นล้านบาท
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดปฏิบัติตรวจค้นจับกุม พร้อมกัน 27 จุด ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ระนอง สมุทรสาคร และสมุทรปราการ เป็นบ้านพัก และบริษัทของเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในจังหวัดระนอง มีผู้ต้องหา ตามหมายจับ 18 ราย
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รักษาการอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า กองคดีฟอกเงินทางอาญา เปิดปฏิบัติการตรวจคันจับกุมเครือข่าย “โกฟุก” ฟอกเงิน จากพนันออนไลน์ ที่สืบสวนพบเบาะแสการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีกลุ่มบุคคลภายใต้เครือข่าย “โกฟุก” นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์หลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อรางวัลเลขท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว โดยอ้างอิงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งนำผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ มาประกอบการเชิญชวนให้มีการเล่นการพนันภายใต้เว็บไซต์หลายเว็บไซต์ เช่น ร่ำรวยร้อยล้าน, นพเก้า, นาคราช, ชอบหวย, ล้อตโต้เอ็มเอ็ม, ดีเอ็นเอ, เยเย่ และอื่นๆ เบื้องต้นพบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท จึงรับไว้ทำการสอบสวนคดีพิเศษที่10/2567
การสอบสวนขยายผลพบว่าเครือข่ายพนันออนไลน์ดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งด้านอิเล็กทรอนิกส์ และใช้วิธีการโอนเงินเพื่อแยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินผ่านบัญชีม้า แปรสภาพเงินที่ได้จากการกระทำความผิดเป็นทรัพย์สิน ต่าง ๆ จำนวนมาก มีเงินหมุนเวียนในเว็บหวยออนไลน์เป็นพันล้านบาท และเว็บยังเปิดอยู่ ดีเอสไอจึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลขออนุมัติหมายจับบุคคล 18 หมายจับ ทยอยจับกุมได้แล้ว 6-7 ราย และการเข้าค้น ในพื้นที่ระนอง พบเงินสดกว่า 30 ล้านบาท ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ พบทรัพย์สินและพยานหลักฐาน จำนวนมาก ได้แก่ รถหรู ทองรูปพรรณ อาวุธปืน และกระเป๋าแบรนด์เนม รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท อยู่ระหว่างการรวบรวมและรายงานผลการปฏิบัติ และนำของกลางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวอีกว่า ตัวการใหญ่ของกลุ่ม โกฟุก มีประวัติขึ้นบัญชีเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดระนอง ตั้งแต่ปี 2547 มีพฤติการณ์เชื่อมโยงส่งออกน้ำมันไปต่างประเทศ สร้างหลักฐานการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปนอกประเทศที่เป็นเท็จโดยเลี่ยงภาษี ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี มูลค่าความเสียหายนับ 10,000 ล้านบาท โดยดีเอสไอจะแยกสอบสวนเป็นอีกคดี.-119-สำนักข่าวไทย