กรุงเทพฯ 31 ม.ค.- ‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ ส่งตัวแทนเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร แจ้งผลกระทบและความคืบหน้า จี้ ‘วนรัชต์’ เปิดรายละเอียดเยียวยา ผู้เดือดร้อน
วันนี้ กลุ่มประชาชนผู้ลงทุนหุ้นกู้สตาร์คส่วนหนึ่งจากทั้งหมดกว่า 4,600 รายที่เสียหายรวมกันกว่า 9 พันล้านบาท ในนาม‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ ได้ส่งตัวแทนเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นคณะทำทำงานติดตามประเด็นคดีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาอย่างใกล้ชิด ณ รัฐสภา เกียกกาย ห้องประชุมกรรมาธิการ N407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (กมธ.ปปง.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ทาง กมธ. ปปง. จะเดินทางไปเรือนจำเพื่อสอบถามข้อมูลจากนายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ จำเลยที่ถูกดำเนินคดีอาญากรณีสตาร์ค และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวระหว่างรอศาลพิจารณาคดีในวันที่ 6 ก.พ. 2567 นี้ พร้อมรับฟังคำถามจากประชาชนผู้เสียหายนำไปสอบถามด้วย
ด้านนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย ‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ กล่าวว่า ล่าสุดตนได้รับการติดต่อจากทนายความของนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และมีบทบาทเกี่ยวข้องกับบริษัท สตาร์คฯ และเป็นทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของอาณาจักรสี TOA โดยนายวนรัชต์ยังคงมีท่าทีปฏิเสธความรับผิดแต่อาจพร้อมแสดงความเสียใจช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย ซึ่งต้องรอฟังรายละเอียดว่าจะมีความหนักแน่นจริงใจเพียงใด เบื้องต้นตนย้ำว่า คดีนี้จำเป็นต้องมีการยอมรับผิดอย่างน้อยที่สุดก็คือในทางแพ่งและต้องช่วยเหลือชดใช้เยียวยาความเสียหายอย่างรวดเร็ว และเป็นธรรม
“หากนายวนรัชต์ มีความจริงใจ กลุ่มตนพร้อมรับฟังแนวทางการนำเงินมาคืนให้ผู้เสียหายอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ต้องเสียเวลาทำให้คดีความยืดเยื้อ เพราะผู้เสียหายหลายรายเป็นผู้สูงอายุบางท่านเจ็บป่วยไม่มีลูกหลานกำลังทุกข์ทรมานเกินรอ แต่หากข้อเสนอเป็นเพียงการใช้กลอุบายแก้คดี กลุ่มตนก็พร้อมต่อสู้ฟ้องเรียกค่าเสียหายอย่างเต็มที่ และพร้อมเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการในคดีอาญาเพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกันกระทำความผิดทั้งหมดมารับโทษ”นายวีรพัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ ‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ กำลังยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเป็นคดีผู้บริโภคแบบกลุ่ม (consumer class action) แทนผู้ถือหุ้นกู้สตาร์คทุกรายทั่วประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องฟ้องเพิ่มให้มีเนื้อหาครบมากไปกว่าคดีเดิมที่ผู้แทนหุ้นกู้ 2 ราย คือ ธนาคารกสิกรไทย และ บล. เอเซียพลัส ได้เคยฟ้องไป ซึ่งกลุ่มมองว่าการฟ้องของผู้แทน 2 รายนี้ไม่เพียงพอและสุดท้ายอาจได้ค่าเสียหายจำกัด โดยกลุ่มมีคณะทำงานคดีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการบัญชีและการตรวจสอบการทุจริตร่วมทีม พร้อมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยกฎหมายเปิดช่องให้ดึงผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมรับผิดพร้อมขอศาลกำหนดค่าเสียหายเชิงลงโทษ 2 เท่าได้ด้วย
ประชาชนผู้ถือหุ้นกู้สตาร์คที่เสียหายสามารถติดตามข่าวสารและร่วมลงชื่อฟ้องคดีภาคประชาชนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายผ่านกลุ่มไลน์ ‘รวมพลังสตาร์ค’ รหัสไอดีไลน์ @ThaiStark (https://lin.ee/LxasUep) หรือ โทร. 098-427-715 .-511-สำนักข่าวไทย