รัฐสภา 28 ต.ค.- “วิลาศ” นำตรวจสอบ งานปูแผ่นหินส้ม แย้มยังมีเรื่องเสียหายสารพัด ตีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท ส่อทุจริต ผิดสัญญา ทำรัฐเสียหาย
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส.กทม. และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร นำสื่อมวลชนตรวจสอบทางเดินเท้าที่ปูด้วยหินวิชิตาสีส้ม โดยรอบศาลาแก้ว ในลักษณะไม่มีฐานปูนรองรับแผ่นหินวิชิตาเกินกว่าครึ่ง คือแผ่นหินวิชิตา มีความกว้าง 60 ซม. คูณ 60 ซม. แต่สามารถสอดแท่งตะเกียบไม้เข้าไปใต้แผ่นหินวิชิตาได้มากกว่า 20 ซม.
นายวิลาศ กล่าวว่า การทำงานโดยปูแผ่นหินที่คำนึงถึงความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หากมีงานรัฐพิธี หรือพิธีต่างๆ ของสภาฯ ที่ต้องใช้สถานที่นี้ และมีแขกมาร่วมงานจำนวนมาก เดินหรือยืนบนแผ่นหินอาจทำให้แผ่นหินรับน้ำหนักไม่ได้ และแตกหัก อาจเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บหรือสูญเสียได้ เพราะเป็นการปูครอบรางน้ำทิ้งครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งปูเข้าไปในพื้นที่ของศาลาแก้ว ซึ่งตนจะส่งเข้าประกวดรางวัลโนเบิลไพร์ซสาขาสิ่งมหัศจรรย์ของโลก โดยนายวิลาศได้นำไม้ตะเกียบยาว 20 ซม. สอดเข้าไปพร้อมมือใต้แผ่นหินให้ดูอีกด้วย ทั้งนี้ การปูแผ่นหินดังกล่าวปูมาตั้งแต่ทางเดินเข้าศาลาแก้วทั้งริมด้านซ้ายและขวา รวมถึงโดยรอบศาลาแก้ว
นายวิลาศ ยังกล่าวถึงการทำผิดสัญญา ซึ่งสัญญาระบุไว้เป็นไม้สัก เพื่อปูเป็นไม้กระดานพื้น ต้องเป็นไม้อบ มีความชื้นของเนื้อไม้ 16 เปอร์เซ็นต์ คือต้องเป็นไม้ที่อบแห้งแล้ว และต้องเคลือบน้ำมันเคลือบไม้เพื่อรักษาเนื้อไม้ เพื่อปูแล้วจะมีร่องระหว่างไม้ไม่เกิน 2 มิลลิเมตร แต่ที่เห็นทั้งพื้นศาลาที่เป็นไม้สัก มีเนื้อไม้หด แสดงว่าไม้ไม่ได้อบ มีช่องว่างระหว่างแผ่นไม้มากเกินไป ทั้งศาลาและพื้นไม้โดยรอบอาคารชั้นล่างทั้งหมด ต่างจากการปูพื้นไม้ก่อนเข้าห้องประชุมสภาฯ ชั้น 2 ที่ได้มาตรฐานตรงตามสัญญา
นายวิลาศ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันยังมีการสร้างงาน หลังเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เซ็นรับมอบอาคารแล้วเสร็จ เป็นการแก้ปัญหาสุกเอาเผากิน เมื่อกรณีเกิดฝนตก ทางเชื่อมต่อระหว่างอาคารมีฝนสาด มีน้ำฝนทะลักเข้าตัวอาคาร บริเวณโถงห้องแถลงข่าวใกล้ศาลาแก้ว เขาใช้วิธีก่ออิฐโบกปูนยาวกว่า 2 เมตร พร้อมซีลยางกันน้ำเข้า ซ้ำยังปิดประตูตายล็อคกุญแจห้ามใช้ประตูดังกล่าวเป็นการถาวร และไม่ได้มีจุดนี้จุดเดียว แต่ยังมีด้านบนชั้นอื่นๆ ที่ทำในลักษณะนับ 10 ประตู ทั้งนี้ตนยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนที่เลขาสภาฯ จะเซ็นรับมอบงานก่อสร้าง 100 เปอร์เซ็นต์ รวมแล้ว 36 เรื่อง เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องส่อทุจริต ทำผิดสัญญา ทำให้รัฐเสียหาย และยื่นเรื่องให้ตรวจสอบหลังการเซ็นรับมอบงาน 100 เปอร์เซ็นต์อีก 20 เรื่อง คาดว่ายังมีเรื่องอื่นๆ ที่ตรวจพบ มีความเสียหายตีเป็นมูลค่าเกิน10 ล้านบาท อีกอย่างน้อย 10 เรื่อง.-315 -สำนักข่าวไทย