ทนายปูดตัวละครใหม่ อักษรย่อ ป. หนุน “ศรีสุวรรณ” ตบทรัพย์

กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว และทนาย นัดพบกับ “ทนายเดชา” ภายหลังวานนี้ (28 ม.ค.) ให้ปากคำ ปปป. ยืนยันจะสู้คดีให้ถึงที่สุด ด้านทนายอธิบดีกรมการข้าวปูดตัวละครใหม่ อักษรย่อ ป. เป็นอดีตผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุน “ศรีสุวรรณ” ตบทรัพย์ พร้อมเปิดไทม์ไลน์คดีนี้แบ่งหน้าที่ทำเป็นขบวนการ


เมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว และนางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยา เข้าให้ปากคำตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ และมอบหลักฐานบัญชีธนาคาร 20 เล่ม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไล่ดูเส้นทางการเงิน พร้อมยืนยันเรื่องราวทั้งหมดเป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่แถลงข่าว และเป็นเพียงพฤติกรรมบางส่วน ซึ่งตนมีหลักฐานมากกว่าที่จะเปิดเผยได้ในชั้นนี้ และการเข้าให้ปากคำเมื่อวานยาวนานกว่า 11 ชั่วโมง โดยหลังให้ปากคำทั้งอธิบดีและภรรยา ต่างบอกว่า “ไม่อยากตอบคำถามใดๆ เนื่องจากจะกระทบต่อรูปคดี”

ทนายปูดตัวละครใหม่ อักษรย่อ ป. หนุน “พี่ศรี” ตบทรัพย์
เช้านี้ (29 ม.ค.) นายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ทนายความและที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว เปิดข้อมูลใหม่กับนักข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมขู่เรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้านบาท ว่าขณะนี้มีนักการเมืองตัวย่อ ป. ซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง และเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ติดต่อมายังอธิบดีกรมการข้าวและภรรยาฝากมาบอกตนเองให้เบาๆ หน่อย และให้ยุติบทบาท รวมทั้งพยายามโยงธุรกิจของภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ที่ทำธุรกิจฟาร์มหมูและฟาร์มไก่ ให้ไปเชื่อมโยงกับคดีหมูเถื่อน ตีนไก่เถื่อนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ แต่ส่วนตัวไม่กลัว การออกมาเปิดเผยในครั้งนี้ไม่มีเรื่องการเมืองเกี่ยวข้อง และมั่นใจพยานหลักฐานมัดแน่น


ทนายไล่ไทม์ไลน์แก๊งตบทรัพย์ทำเป็นขบวนการ
ทนายยังบอกอีกว่า การรีดทรัพย์ครั้งนี้มีการทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ พร้อมเปิดไทม์ไลน์การรีดทรัพย์ ว่าก่อนเกิดเหตุมีบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนอธิบดีกรมการข้าว ส่งมายังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนที่อธิบดีกรมการข้าวจะถูกเรียกเข้าไปชี้แจงถึงงบก้อนดังกล่าวที่ไม่ได้ใช้แล้ว และส่งให้ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ช่วยชาวนาไปแล้ว จากนั้นเรื่องจึงยุติไป จนอธิบดีกรมการข้าวมาปรึกษากับทนายว่าน่าจะถูกคนกลั่นแกล้ง จึงมอบอำนาจให้ไปแจ้งความร้องทุกข์

ต่อมามีที่ปรึกษาของผู้บริหารของกระทรวงเกษตรฯ เรียกอธิบดีกรมการข้าวเข้าไปพบ ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ซึ่งที่ปรึกษาคนนี้ได้แนะนำให้จ่ายเงินเคลียร์นาย ศ. เรื่องจะได้ยุติ เพราะหากมีการแถลงข่าวจะเกิดความเสียหายมาก ก่อนนัดแนะให้ไปจ่ายเงินที่บ้านนาย ศ. จำนวน 6 หลัก มากกว่า 100,000 บาท ซึ่งขณะนั้นคิดว่าเรื่องจะจบแล้ว แต่เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นาย ศ. และนาย จ. ไปแถลงข่าวที่รัฐสภา กล่าวหาถึงการทุจริตในกรมฝนหลวง ซึ่งในช่วงท้ายมีการกล่าวถึงกรมการข้าวว่าเป็นกรมเล็ก แต่มีการซุกงบกว่าหมื่นล้าน และตั้งภรรยาผู้บริหารให้เปิดบริษัทรองรับการทุจริต

ในวันเดียวกันมีโทรศัพท์จากนาย ศ. โทรเข้ามาหาอธิบดีกรมการข้าว แต่ไม่ได้รับ วันถัดมานาย ศ. โทรเข้ามาอีก เพื่อนัดกินกาแฟช่วงเที่ยง มาถึงก็บอกว่าขณะนี้เตรียมตรวจสอบงบประมาณ และเตรียมยื่นให้กรรมาธิการตรวจสอบ ซึ่งอธิบดีกรมการข้าวตอบกลับว่าจะตรวจสอบอะไร และยืนยันว่าไม่ได้ทำความผิด


จากนั้นเมื่อแยกย้ายกันแล้วมีโทรศัพท์เข้ามาหาอธิบดีกรมการข้าวอีกครั้ง และเรียกรับเงินเพิ่ม ก่อนที่อธิบดีกรมการข้าวจะยื่นโทรศัพท์ให้ภรรยาเป็นคนคุย ปลายสายตอบกลับว่าจะเรียกเงินจำนวน 2 กิโลฯ หรือ 2 ล้านบาท ซึ่งภรรยาอธิบดีกรมการข้าวบอกว่าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ และหากดูแลเล็กๆ น้อยๆ ก็ดูแลได้ ก่อนจะมีการต่อรองกันจนเหลือ 1 กิโลฯ ครึ่ง หรือ 1.5 ล้านบาท

รีดทรัพย์ 5 ครั้ง หลักฐานมัดคดีตบทรัพย์
โดยฝั่งผู้ต้องหาได้ขอให้โอนมาก่อน 100,000 บาท แต่ทนายบอกภรรยาอธิบดีกรมการข้าวว่าโอนไปแค่ 50,000 บาทก่อน ทั้งนี้ เลขที่บัญชีที่มีการส่งมาให้โอนไปนั้นไม่ได้เป็นชื่อของ 1 ใน 3 ผู้ต้องหา เป็นชื่อผู้ชาย คาดอาจเป็นบัญชีม้า จากนั้นมีการเร่งเร้าให้จ่ายเต็มจำนวน 100,000 บาท วันที่ 23 ธ.ค. 2566 จึงโอนให้อีก 10,000 บาท
ระหว่างนั้นมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอส่วนหนึ่ง และเข้าพบกับตำรวจ ปปป. แล้วก็โทรกลับไปหานาย ศ. ซึ่งบอกว่ายังเหลือเงินที่ต้องจ่ายอีก 1,440,000 บาท ภรรยาอธิบดีกรมการข้าวจึงนำเงินจำนวน 100,000 บาท ไปให้นาย ศ. ที่บ้าน เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนั้นมีการถ่ายคลิปวิดีโอขณะที่นาย ศ. กำลังรับเงิน เป็นพยานหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับ จนวันที่ 26 ม.ค. ตำรวจ บก.ปปป. จึงเข้าจับกุมนาย ศ. โดยมีของกลางเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท

ส่วนกรณีที่นาย ศ. อ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นเงินรีดทรัพย์ ทนายยืนยันว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาจะพูดอะไรก็ได้ แต่ตนเองในฐานะทนายความที่ทำงานเกี่ยวกับคดีทุจริต มั่นใจว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอทั้งภาพถ่ายและคลิป ซึ่งนาย ศ. มีลักษณะเหมือนวางใจ หลังจากได้เงินไปก้อนหนึ่งแล้ว และคิดว่าจะได้อีก

“ทนายเดชา” หนุนเปิดโปง ลั่นต้องไม่กลัวตาย ตร.อย่าปอดแหก
ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะเพื่อนของทนายดนุเดช บอกว่า ได้แนะนำให้ทนายดนุเดชนำหลักฐานสำคัญๆ มาเปิดเผยต่อสื่อให้สาธารณชนได้รับรู้ เพื่อให้ยากต่อการวิ่งเต้นล้มคดี ช่วยเหลือพวกพ้องกัน ไม่ต้องกลัวตาย ถ้าตายจะสร้างอนุสาวรีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ให้ ในขณะที่ที่ปรึกษารัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงต้องถูกดำเนินคดีด้วย ตำรวจเองอย่าปอดแหก ไม่ใช่สร้างภาพจนในที่สุดคดีก็หายไป ต้องทำคดีถึงที่สุด ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง เป็นเรื่องของการตบทรัพย์ล้วนๆ และคนกลุ่มนี้น่าจะทำมานานแล้ว พร้อมแนะนำว่าใครที่ได้รับความเสียหายควรออกมาแสดงตัว ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีคลิปหลักฐานใดๆ เพียงแค่ผู้เสียหายมายืนยันว่าถูกตบทรัพย์ก็สามารถเอาผิดได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม วันนี้ นางธัญญรัตน์ ไชย์ศิริคุณากร ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว เดินมาศาลแพ่ง เพื่อให้การในคดีอื่น แต่ไม่ได้ปรากฏตัวพบสื่อมวลชนแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต