รร.พูลแมน คิงพาวเวอร์ 24 ม.ค.-นายกฯ ยันไม่เคยใช้อำนาจเรียกดูข้อมูลคลังก่อนแถลง หลังตัวเลขจีดีพีของสศค.หลุดออกสาธารณะ ปัดบอกศก.วิกฤติ-ไม่วิกฤติ ย้ำเศรษฐกิจไม่ดี ต้องหามาตรการกระตุ้น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัญมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีมีเอกสารลับการประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2566 และ ปี 2567 ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งจะแถลงวันที่ 24 ม.ค. 67 ออกมาเผยแพร่ก่อน พร้อมสรุปจีดีพีปี 66 เติบโตเพียง 1.8% ว่า รอให้ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แถลงเป็นทางการก่อน และไม่ยืนยันว่าเป็นตัวเลขจริงหรือไม่ ในฐานะรมว.คลัง ไม่เคยขอตัวเลขมาดูก่อน
“ไม่ยืนยันข้อมูล ถึงแม้ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผมไม่เคยขออะไรมาดูก่อน สศค.มีความเป็นอิสระในการทำตัวเลข ต้องให้เกียรติ ผอ.สศค.ด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนที่ตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าที่รัฐบาลวางไว้ ต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายกรัฐนตรี กล่าวว่า พิจารณามาตรการตลอดเวลา ส่วนตัวเลขที่ออกมายอมรับว่า ต่ำ และตนไม่อยากสร้างวาทกรรมใหม่ว่าเศรษฐกิจวิกฤติหรือไม่วิกฤติ แต่ยืนยันว่า เศรษฐกิจไม่ดี ส่วนที่ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า ประเทศยังไม่วิกฤติ เป็นเรื่องของความเห็นต่าง ซึ่งเป็นธรรมดาของสังคม
ส่วนนโยบายการเงินกับนโยบายการคลัง ดูเหมือนไม่สอดประสานกัน กระทบกับความเชื่อมั่นนักลงทุน นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า อาจมีเห็นต่างกันบ้าง แต่เชื่อว่า สศค.กับธปท.คุยกัน เรื่องการเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดาของการอยู่ร่วมกัน และต้องพูดคุยไปเรื่อย ๆ แต่ละคนมีหน้าที่ต้องทำไป
เมื่อถามย้ำว่า ในภาวะเศรษฐกิจเติบโตช้า โครงการดิจิทัล วอลเล็ตไม่ชัดเจน ภาคเอกชนกังวลจะนำไปสู่การลดดอกเบี้ย อยากเห็นความชัดเจนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการลดดอกเบี้ยต้องถามจากธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลคิดอยู่ตลอดเวลา มั่นใจว่าจะมีนโยบายอื่น ๆ ตามมาด้วย ไม่ใช่ดิจิทัล วอลเล็ตอย่างเดียว ซึ่งได้พูดคุยกับรมช.คลังและผอ.สศค.ตลอดเวลาทุกเรื่อง เช่น มาตรการกระตุ้นทางด้านภาษีและอีกหลายมาตรการ
ส่วนที่ยังมีเสียงคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ หลังการลงพื้นที่จ.ระนอง นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า คนที่สนับสนุนโครงการนี้ก็มีมาก แต่ก็รับฟังความเห็นต่าง
เมื่อถามว่ารัฐบาลพยายามโรดโชว์เดินสายพบนักลงทุน แต่ไม่ค่อยส่งผลบรรยกาศตลาดทุนก กระทรวงการคลังต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดทุนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญทางเศรษฐกิจ เรื่องสำคัญคือ เรื่องความมั่นใจในแง่ของที่มีคนกระทำผิด แต่ยังไม่สามารถจับกุมมาลงโทษได้ โดยเฉพาะเรื่องหุ้นมอร์และหุ้นสตาร์ค แต่ได้สั่งการไปแล้ว
“วันนี้มีนัดหมายพูดคุยกับรมว.ยุติธรรมด้วย เรื่องนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรม ยอมรับว่านักลงทุนอาจยังไม่มั่นใจเรื่องนี้ เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องทำหน้าที่ต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย