พิสูจน์อัตลักษณ์เหยื่อโรงงานพลุระเบิดได้แล้ว 15 ศพ

สุพรรณบุรี 19 ม.ค. – ครอบครัวเหยื่อโรงงานพลุระเบิด ยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ ล่าสุดวันนี้ (19 ม.ค.) การพิสูจน์อัตลักษณ์สามารถระบุตัวบุคคลได้แล้ว 15 ศพ พฐ. เผยจะเร่งให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ ช้าที่สุดไม่เกินพรุ่งนี้ (20 ม.ค.)


ที่วัดโรงช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุโรงงานพลุระเบิด ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ตำรวจภูธรภาค 7 มีการให้บริการของเจ้าหน้าที่ พม. เรื่องเยียว ดูแลสภาพจิตใจ การปรึกษา และด้านกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยว่า สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ร่างผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด 15 ศพ วันนี้จะเร่งดำเนินการให้ครบทั้ง 23 ศพ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเสร็จทันหรือไม่ เนื่องจากขึ้นอยู่กับกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่อย่างช้าที่สุดคาดว่าไม่เกินวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.)


ส่วนการตรวจสอบที่เกิดเหตุมีการเก็บพยานหลักฐานไว้ครบถ้วนแล้ว หลังจากเข้าพื้นที่ได้ตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งต้องนำหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุทั้งหมดมาตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ เกี่ยวกับเรื่องสารเคมีต่างๆ เพื่อพิสูจน์ทราบสาเหตุของการเกิดเหตุ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะทราบผลเมื่อไร เนื่องจากขั้นตอนการตรวจสอบต้องใช้เวลา แต่จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด

ขณะที่ นายอุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ระบุว่า ในส่วนของ พม. มีเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 3,000 บาท แต่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นว่าหากรอราชการอาจล่าช้า จึงกำชับว่าหากมีหน่วยงานพร้อมสนับสนุนให้เร่งช่วยเหลือก่อนซึ่งวันนี้บริษัท ศักยภาพไทยอินเตอร์กฎหมายและธุรกิจ มอบเงินให้ครอบครัวละ 10,000 บาท

ส่วนการเยียวยาจิตใจ พม.สุพรรณบุรี พบนักเรียนโรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย ม.6 และ ม.4 เสียทั้งพ่อและแม่จากเหตุการณ์นี้ เมื่อวานนักเรียนยังอยู่ในอาการโศกเศร้า เครียด และกังวล แต่วันนี้เข้มแข็งขึ้น เบื้องต้นโรงเรียนมอบเงิน 30,000 บาท และยกเว้นค่าเทอมให้จนจบ ม.6 ส่วนนักเรียน ม.6 สมาคมศิษย์เก่า ส่งเสียให้เรียนต่อตามกำลังความสามารถของนักเรียนที่จะเรียนได้


สำหรับญาติผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า บริเวณที่ตั้งศพยังคงนั่งเฝ้าไม่ห่าง บางครอบครัวสูญเสียญาติพร้อมกันไปอย่างกะทัน ยังทำใจไม่ได้

บริเวณที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตหลายรายยังไม่ได้เข้าพื้นที่ประกอบพิธีอัญเชิญวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้าน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”