กรุงเทพฯ 5 ม.ค. -อัยการ-ตำรวจ ยืนยันคดีตำรวจรีดทรัพย์เว็บพนัน 140 ล้านบาท ไม่ล่าช้า ย้ำ 25 ม.ค.นี้ รู้แน่ ใครถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายบ้าง
วันนี้เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานการสอบสวน ถ.บรมราชชนนี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน คดีตำรวจรีดทรัพย์เว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน เเละคณะพนักงานสอบสวน ทั้งจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นครั้งที่ 2 เพื่อเร่งสรุปสำนวนส่งอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตฯ พิจารณา
ซึ่งคดีดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ จะต้องมีพนักงานอัยการเข้าไปร่วมสอบสวนกับตำรวจในชั้นสอบสวนด้วย ซึ่งเดิมทีเป็นอำนาจของสำนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี แต่เนื่องด้วยมีการเกิดเหตุในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และเชียงราย สำนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี จึงทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด ว่าเห็นควรให้ทำคดีนี้อย่างไร ซึ่งต่อมาอัยการสูงสุดก็ได้มีคำสั่งให้สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เข้ามากำกับ และตรวจสอบสำนวนการสอบสวน ซึ่งที่ผ่านมามีการสอบปากคำพยานต่าง ๆไปแล้วทั้งหมด 127 ปาก มีผู้ต้องหาทั้ง 29 ราย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 16 ราย รวมถึง พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี และพลเรือนอีก 13 ราย
ด้าน พล.ต.ท.อัคราเดช เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากและมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหลายราย ซึ่งเป็นพยานชุดเดิมที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งพนักงานสอบสวนก็พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยมีการวางไทม์ไลน์คดีนี้ไว้ หลังเข้ามารับ หน้าที่หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภายในไม่เกิน 60 หรือ 90 วันหลังจากนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการล่าช้า ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ถือว่าทำงานเร็วที่สุดแล้ว
ขณะที่นายภาณุรัตน์ กล่าวว่า อัยการมีหน้าที่เข้ามากำกับและตรวจสอบสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากคดีดังกล่าวเข้าข่ายพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและทำให้บุคคลสูญหายฯ (พ.ร.บ.อุ้มหาย) เพื่อให้สำนวนรอบคอบ รัดกุม เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยจากการหารือในวันนี้ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ในวันที่ 25 มกราคมนี้ คณะพนักงานสอบสวนในคดีจะมีการประชุมที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ และดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่และพลเรือนที่เกี่ยวข้อง จากนั้นพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในภายหลัง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่ามีผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีกกี่รายและจะเป็นกลุ่มใดบ้าง เมื่อมีความชัดเจนในการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วทางพนักงานสอบสวนก็จะสรุปสำนวนเพื่อส่งสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตต่อไป
ยืนยันว่าการดำเนินการในสำนวนคดีในครั้งนี้ไม่ได้ล่าช้า เนื่องจากที่ผ่านมาติดเงื่อนไขหลายอย่าง และคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ที่มี พล.ต.ท.อัคราเดช เป็นหัวหน้าฯ ก็มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนชุดใหญ่ มาดูแลอย่างรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะที่สำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนชุดแรกที่มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะฯ ก็ได้มีการสอบปากคำทุกฝ่ายทั้งผู้เสียหายและผู้ที่มาร้องขอความเป็นธรรมอย่างรอบด้าน ซึ่งการดำเนินการของคณะพนักงานสอบสวนไม่ได้มุ่งเอาผิดใคร แต่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเป็นธรรมเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนายตำรวจระดับสูงระดับนายพล. -413-สำนักข่าวไทย