ก.คลัง 24 ก.ค. – คลังเตรียมเสนอ ครม.ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เบื้องต้น 40,000 ล้านบาท เตรียมถกผู้ว่าฯ พัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค หนุนเอสเอ็มอีฟรีค่าธรรมเนียม และค้ำประกันชดเชยร้อยละ 30 ของพอร์ตสินเชื่อ เสนอให้ ครม.พิจารณาเร็ว ๆ นี้
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เบื้องต้นวงเงิน 40,000 ล้านบาท รองรับบริการขั้นพื้นฐาน เช่น ลดภาระค่าโดยสารรถเมล์ บขส. รถไฟฟรี และค่าใช้จ่ายผ่านร้านธงฟ้า โดยจะระบุชัดเจน เช่น ค่าโดยสารรถไฟ 600 บาท รถเมล์ 1,000 บาท เป็นต้น หากใช้ไม่หมดไม่สามารถทบไปใช้อีกเดือนต่อไปได้ และยังเช็คประวัติผู้มีรายได้น้อยเพิ่มว่าแต่ละเดือนใช้จ่ายอย่างไรบ้าง การโอนเงินผ่านบัตรสวัสดิการให้กับผู้มีรายได้น้อย เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายค่าครองชีพไม่สามารถนำออกมาเป็นเงินสดได้
อย่างไรก็ตาม ในการเสนอ ครม.ครั้งนี้ ยังไม่รวมถึงการเติมเงินให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อย (Negative Income TaX) ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ปัจจุบันประมาณ 3-4 ล้านคน เพราะต้องขอเวลาพิจารณา เนื่องจากต้องมีเงื่อนไข เช่น การร่วมเข้าโครงการฝึกอาชีพเพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือ เป็นต้น เพราะที่ผ่านมากระทรวงการคลังลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ พบว่ามีชาวบ้านมีปัญหาหนี้นอกระบบจำนวนมาก จึงต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ ทั้งการเจรจาประนอมหนี้ การดึงเจ้าหนี้ลูกหนี้อยู่ในระบบ โดยการช่วยเหลือของธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ยอมรับว่าปีนี้จะไม่มีมาตรการลดหย่อนภาษี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว
ขณะเดียวกันยังสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งประสานงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นำงบประมาณที่ได้รับจัดสรรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การสร้างตลาดในสถานที่ราชการ หรือเช่าพื้นที่บางพื้นที่ เพื่อเปิดให้กับผู้มีรายได้น้อยมาค้าขายฟรีจนถึงสิ้นปี โดยสัปดาห์หน้าเตรียมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อหามาตรการอื่นให้เหมาะสมกับแต่ละจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจท้องถิ่นขยายตัวดีขึ้นและประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
นายสมชัย กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลช่วยเหลือเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนนั้น การแก้ไขหลักเกณฑ์ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอี ทวีทุน หรือ PGS6 ผ่าน บสย.นั้น วงเงิน 100,000 ล้านบาท ยอมรับว่ายังมีความล่าช้า เนื่องจากผู้ประกอบการไม่สนใจเข้าโครงการ เพราะมีต้นทุนค่าธรรมเนียมถึงร้อยละ 1.75 ขณะนี้ได้ประชุมหารือกับคณะทำงานแล้ว เพื่อปรับเงื่อนไขหลักเกณฑ์ฟรีค่าธรรมเนียมและค้ำประกันชดเชยร้อยละ 30 ของพอร์ตสินเชื่อ คาดว่าเสนอให้ ครม.พิจารณาเร็ว ๆ นี้
ส่วนสรรหาผู้บริหารรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เช่น การประกาศรับสมัครกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นั้น วันพรุ่งนี้จะประชุมกับคณะทำงาน เพื่อประกาศรับสมัครผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ยืนยันว่าคุณสมบัติจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด มั่นใจว่าภายในปีนี้ได้รายชื่อผู้นั่งตำแหน่งดีดีการบินไทยอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พบว่า กำไรลดลงเล็กน้อยจากการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH นั้น ยืนยันว่าฐานะของธนาคารยังแข็งแกร่ง และเชื่อว่าครึ่งปีหลังผลประกอบการจะดีขึ้นแน่นอน เพราะธนาคารกรุงไทยเปรียบเสมือนม้าตีนปลายครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีอย่างแน่นอน เพราะหนี้ที่มีปัญหาได้คัดมาแก้ปัญหาและอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างภายในของธนาคาร
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนคณะกรรมการสืบหาทรัพย์สินได้ส่ง 12 บัญชีเงินฝากธนาคารของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งให้กรมบังคับคดีไปดำเนินการแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยจำนวนเงินได้ ส่วนทรัพย์สินอื่น หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งมาคณะกรรมการพร้อมส่งต่อไปยังกรมบังคับคดีเพิ่มทันที พร้อมยืนยันดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย. – สำนักข่าวไทย
