กรุงเทพฯ 21 ธ.ค. – สาวร้องสายไหมต้องรอด ถูกหนุ่มชาวจีนหนีแต่งงาน หลังตั้งท้องได้ลูกสาว เชื่อทำเป็นขบวนการหลอกหญิงไทยอุ้มท้อง เพื่อหวังให้ได้ลูกชาย
หญิงสาวเข้าร้องทุกข์ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด พร้อมให้ข้อมูลว่า พฤติการณ์ของแก๊งงนี้จะเป็นแก๊งคนจีนล่าลูกชาย โดยมีการวางแผนนำหนุ่มชาวจีนมาหลอกคบกับสาวเพื่อแต่งงาน เมื่อสาวตั้งท้องแต่ได้ลูกสาวจะถูกทอดทิ้ง โดยฝ่ายชายจะบินกลับจีนและไม่ติดต่อมาอีกเลย
ส่วนกรณีของตน คือตนได้รู้จักกับหญิงชาวจีนคนหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าให้เช่าห้องพักคอนโดฯ ซึ่งอยู่ในคอนโดฯ ที่ตนพักอาศัยอยู่ แม่กับน้องสาวตนก็เคยพูดคุยและสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ คุยกันมานาน กระทั่งช่วงเดือนเมษายน นายหน้าคนนี้ได้เป็นแม่สื่อแนะนำให้รู้จักกับหนุ่มจีนคนหนึ่ง บอกว่าเป็นพ่อม่าย ทำธุรกิจเอเจนซี่จัดหาคนขายของทางแอปฯ ชื่อดัง
เมื่อตนลองพูดคุยผ่าน we chat และ VDO call ประมาณ 2 เดือน ได้ตัดสินใจตกลงแต่งงาน เพราะหนุ่มจีนดูเป็นคนจริงใจ และบอกว่าอยากมีครอบครัว อยากมีลูก เป็นเพศใดก็ได้ ด้วยความที่ครอบครัวรับรู้มาตลอดจึงเชื่อใจไว้ใจ
หลังจากพูดคุยคบหากัน ตนก็ตั้งท้อง จึงวางแพลนจะแต่งงานกัน ครอบครัวของตนและฝ่ายชายได้พูดคุยเตรียมงานแต่ง เชิญแขก เตรียมสถานที่ และฝ่ายชายบินจากจีนมาถ่ายชุดพรีเวดดิ้ง เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา แต่ระหว่างเตรียมการแต่งงาน ตนได้ไปอัลตราซาวด์ลูกตามกำหนด ทำให้ทราบได้ลูกสาว เมื่อไปบอกกับฝ่ายชาย ฝ่ายชายบินกลับจีนไปทันที อ้างว่ากลับไปทำงาน จากนั้นไม่ติดต่อมาอีกเลย เมื่อถามไปทางแม่สื่อ แม่สื่อไม่ตอบอะไร แต่หลุดปากพูดมาว่าเคยหาหญิงหลายรายก็ได้ลูกชายทุกครั้ง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนและครอบครัวเครียดมาก อีก 8 สัปดาห์ จะคลอดแล้ว เพราะกระทบทั้งตัวเองและลูก ตอนนี้ยิ่งเกิดความสงสัย มีการรู้เห็นกันหรือไม่ จึงอยากให้หน่วยงานที่ดูแลออกมาตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ และอยากเตือนภัยหญิงไทยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
ขณะที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ยอมรับกรณีนี้มีความผิดปกติ ตลอเวลาช่วงที่ท้อง แม่สื่อจะทำหน้าที่ติดตามไปโรงพยาบา และขอดูผลอัลตราซาวน์ตลอด ส่วนกำหนดการแต่งงานเดิมวางไว้คือวันที่ 9 เดือน 9 สุดท้ายแจ้งว่าเจ้าบ่าวติดงาน ต้องเลื่อนไปเป็นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหลังรู้เพศลูก จึงอยากฝาก ตม. ให้ช่วยตรวจสอบว่าแม่สื่อหญิงชาวจีนมีพฤติกรรมเข้าข่ายการจัดหาหญิงไทยให้แต่งงาน อุ้มท้อง หรือไม่ หรือเข้าข่ายหลอกให้อุ้มบุญหรือไม่.-สำนักข่าวไทย