หนองคาย 20 ก.ค.- ตำรวจคุมตัว “ปุ้มปุ้ย” ผู้ต้องหาคดีข่มขืนสาวผู้ช่วยเหลือคนไข้ รพ.หนองคาย ไปทำแผนอีกรอบทั้งคดีข่มขืนเก่าและคดีใหม่
เมื่อเวลา 14.00 น. (20 ก.ค.) พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, ร.ต.อ.อรรถพล จันทะนิตย์ รองสารวัตร(สอบสวน) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้นำตัวนายปุ้มปุ้ย เกษานุช ผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เหตุเกิดที่ซอกตึกหลังอาคารสำนักงานซักฟอก อาคารด้านหลังโรงพยาบาลหนองคาย เมื่อช่วงประมาณ 20.30 น .วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำสารภาพเป็นวันที่ 2 อย่างเงียบ ๆ หลังจากที่ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) ได้ทำแผนที่ รพ.หนองคายแล้ว จนเกือบเกิดเหตุประชาทัณฑ์
การทำแผนจุดแรกบริเวณทุ่งนา บ้านจอมเสด็จ ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งเป็นคดีที่นายปุ้มปุ้ย ข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนแม่ขณะพากันไปหาปู ซึ่งคดีนี้เกิดขึ้น เมื่อเดือน พ.ค. 60 ที่ได้มีการออกหมายจับไปแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม และนายปุ้มปุ้ย ก็ได้มาก่อเหตุซ้ำในครั้งนี้อีก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายปุ้มปุ้ย มาทำแผนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง ในเขตเทศบาล ซึ่งเป็นจุดที่นายปุ้มปุ้ย ขโมยสกู๊ตเตอร์ที่ชมรมสกู๊ตเตอร์จอดไว้ที่ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง ก่อนพายหลบหนีไป สปป.ลาว ซึ่งจุดนี้ใช้เวลาในการทำแผนไม่ถึง 10 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็รีบนำตัวกลับมาคุมขังไว้ที่ สภ.เมืองหนองคาย เนื่องจากหวั่นญาติเหยื่อมารอรุมประชาทัณฑ์
นายปุ้มปุ้ย อ้างว่า วันเกิดเหตุแม่ติดธุระ จึงให้ตนพาเพื่อนแม่ไปหาปู หลังจากหาปูได้ 1 ตัว ก็ได้มีการจูงมือกัน ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ จึงข่มขืน โดยไม่มีการบังคับและขัดขืน
ด้าน พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า การดำเนินคดีกับนายปุ้มปุ้ยนั้น จะสรุปสำนวนเพิ่มเติมในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายส่งให้พนักงานอัยการมีความเห็น คดีที่สองเป็นคดีข่มขืนหญิงวัยกลางคนเมื่อเดือน พ.ค.60 และคดีที่สามเป็นคดีล่าสุดที่ก่อเหตุข่มขืนเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล จึงเป็นคดีข่มขืน 2 คดี นำรวมกับคดีค้างเก่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย รวมเป็น 3 คดี ให้พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีอย่างรัดกุมส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาคดีอย่างเร็วที่สุด
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า จังหวัดหนองคายมีมาตรการที่สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว หากมีเหตุเกิดขึ้นตำรวจจับกุมได้ทุกคดี แม้จะหลบหนีไปนอกประเทศก็ตามจับกุมมาให้ได้ ทางตำรวจมีกล้องซีซีทีวีประจำอยู่ทั้งจังหวัด 3,000 ตัว มีศูนย์มอนิเตอร์ตลอดเวลา หากเกิดเหตุสามารถตรวจสอบจากกล้องซีซีทีวีได้ ส่วนในโรงพยาบาลหนองคายก็จะขอเชื่อมสัญญาณกล้องเข้ากับตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจเป็นระยะ ๆ และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายดูแลประชาชนให้ดีที่สุด.-สำนักข่าวไทย
