หนองคาย 20 ก.ค.- แม่ “ปุ้มปุ้ย” ผู้ต้องหาข่มขืนสาวผู้ช่วยเหลือคนไข้ รพ.หนองคาย นำอาหารเยี่ยมลูกถึงห้องขัง เผยโล่งใจตำรวจจับได้เกรงก่อเหตุอีก และเคยพาไปรักษาอาการทางจิต ด้านตำรวจเร่งสอบปากคำเพิ่ม เล็งแจ้งหาอีก 1 คดีข่มขืนหญิงก่อนหน้านี้
พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยว่า หลังจากคุมตัวนายปุ้มปุ้ย เกษานุช อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีทำร้ายและกระทำชำเราสาวผู้ช่วยเหลือคนไข้ในโรงพยาบาลหนองคายเมื่อค่ำวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติมและสามารถควบคุมตัวได้ 48 ชั่วโมง โดยนายปุ้มปุ้ย รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยังรับสารภาพคดีข่มขืนหญิงอีกคนก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เพิ่มข้อหาข่มขืนฯ กับนายปุ้มปุ้ยอีกคดีหนึ่ง ขณะที่ตำรวจนำตัวนายปุ้มปุ้ยมาทำประวัติพบว่ามีพฤติกรรมแปลก ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ยืนยันว่านายปุ้มปุ้ยจะมีอาการทางจิตหรือไม่ ส่วนกรณีนายปุ้มปุ้ยถูกปล่อยตัวจากเรือนจำหลังจากจำคุกในคดีทำร้ายร่างกายนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และคดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด คาดว่าเช้าวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) จะนำตัวไปขอฝากขัง
ขณะที่ สภ.เมืองหนองคาย ช่วงเช้าที่ผ่านมา หญิง อายุ 50 ปี แม่ของนายปุ้มปุ้ย นำอาหารมาเยี่ยมลูกชาย และให้สัมภาษณ์ว่า ลูกชายมีสภาพค่อนข้างอิดโรย แต่ก็กินข้าวได้และนอนหลับ เมื่อทราบข่าวว่าตำรวจจับตัวได้ในครั้งนี้ก็โล่งใจ เพราะกลัวว่าลูกชายจะเตลิดไปลงมือกับคนอื่นอีก ตามปกติเมื่อเวลาอยู่กับแม่มีนิสัยดี แต่พอดื่มเหล้ากลายเป็นคนละคน มีอารมณ์เกรี้ยวกราดรุนแรง ทะเลาะกับแม่บ่อย ก่อนหน้านี้ได้เช่าบ้านอยู่ในซอยแห่งหนึ่งพักด้วยกัน แต่เจ้าของบอกเลิก จึงไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และตนก็ไปมีสามีใหม่ ลูกชายจะไปพักตามวัด เมื่อปี 2558 ลูกถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ติดคุกอยู่ 4 เดือนก็ถูกปล่อยตัวออกมา เพราะลูกชายไม่ได้เป็นคนลงมือทำ แต่เป็นเพื่อนอีกคนหนึ่ง หลังจากออกจากเรือนจำ พาลูกชายไปรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลหนองคาย เพราะมักจะมีอาการก้าวร้าวรุนแรง แพทย์รักษาด้วยยารับประทาน แต่เข้ารักษาไม่ต่อเนื่อง จากนั้นก็ไม่ค่อยเจอลูก หากบทลงโทษลูกชายครั้งนี้จะเป็นอย่างไรก็ยอมรับได้.-สำนักข่าวไทย