หนองคาย 25 ต.ค.- ผอ.รพ.หนองคายชี้แจงกรณีมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กหญิงสูงอายุเป็นแผลหลังเข้ารักษา ย้ำการรักษาเป็นตามหลักการแพทย์ อีกทั้งประวัติผู้ป่วยใช้สเตียรอยด์มาตั้งแต่รุ่นสาว ผิวหนังเปราะง่าย ยืนยันก่อนออก รพ.ไม่มีบาดแผลเพิ่มจากวันแรกรับตัวผู้ป่วย
บ่ายวันนี้ (25 ต.ค.) นพ.สุรกิจ ยศพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคาย และ นพ.พิสิษฐ์ อินทรวงษ์โชติ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองคายด้านการแพทย์ แถลงที่ห้องประชุมโรงพยาบาลหนองคาย เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์บาดแผลของผู้ป่วยหญิงวัย 75 ปี หลังเข้ารักษาว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบข้อมูลทราบว่าเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โรงพยาบาลหนองคายได้รับผู้ป่วยรายนี้ต่อจากโรงพยาบาลเฝ้าไร่ ด้วยอาการปอดอักเสบร่วมกับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนคือภาวะต่อมหมวกไตบกพร่องจากการกินสเตียรอยด์ตั้งแต่รุ่นสาว การรักษานั้นได้รักษาตามกระบวนการให้ยา และเจาะเลือดเพื่อส่งไปทดสอบในห้องปฏิบัติการหลายครั้ง จึงทำให้ต้องมีรอยแผล รอยเข็มจากการเจาะเลือด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เนื่องจากผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุ มีผิวหนังเปราะบางอยู่แล้ว ประกอบกับการใช้สเตียรอยด์มานาน เสี่ยงต่อการรับบาดเจ็บง่าย ทีมที่ให้การรักษาพบว่าผู้ป่วยมีแผลหรือรอยจ้ำที่แขนมาก่อน จึงพยายามหลีกเลี่ยงเจาะเลือดหรือกระทบกระเทือนบริเวณนั้นตามหลักทางการแพทย์ จนกระทั่งวันที่ 12 ต.ค.61 เป็นวันที่ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลหนองคายก็ยังไม่พบบาดแผลใด ๆ เพิ่มเติมตามที่ญาติได้ถ่ายรูปลงในเฟซบุ๊ก จึงเชื่อว่าแผลเกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลไปแล้วจนมีการติดเชื้อ
“แพทย์ได้นัดผู้ป่วยมาติดตามการรักษาอีกครั้งวันที่ 22 ต.ค. แต่ผู้ป่วยไม่มาพบแพทย์ตามนัด ขณะนี้ได้จัดทีมของโรงพยาบาลลงไปสมทบกับ รพ.สต.บัวตูม เพื่อไปดูบาดแผลและทำคามเข้าใจกับผู้ป่วย พบว่าแผลเริ่มหาย ตกสะเก็ดทั้งแขนซ้ายขวา แผลที่ถลอกตามขาหนีบ ตามต้นขา มีแผลกดทับเป็นหย่อม ๆ แต่ไม่รุนแรง แค่ถลอกและกำลังจะหาย ไม่มีอาการหนองเยิ้มแล้ว แต่ผู้ป่วยมีผิวหนังเปราะบางมาก เหมือนกระดาษจับเล็กน้อยผิวหนังก็จะฉีกขาดได้ ขนาดวัดความดันยังวัดยาก เพราะเกรงว่าผิวหนังจะปริแตก ขณะนี้ยังพบด้วยว่าเริ่มมีไข้สูงอีกครั้งประมาณ 39 องศา หายใจหอบ เชื่อว่าน่าจะเป็นปอดบวมอีก จึงขอให้เข้ารับการรักษาโดยเร็ว แต่ญาติยังลังเล เพราะอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวข้าวและกรีดยาง กลัวว่าจะไม่มีคนมาเฝ้าไข้”
นพ.สุรกิจ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือสัมพันธภาพและความเข้าใจ พยายามดูแลจิตใจของผู้ป่วย จึงมอบหมายให้ รพ.สต.เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าเป็นไปได้อยากให้ส่งผู้ป่วยเข้ามารักษาโดยเร็ว เพราะตอนนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีอาการบวมตามขา ส่วนข้อมูลการบริการที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ตามที่กล่าวอ้าง ทางโรงพยาบาลกำลังตรวจสอบ เนื่องจากยังไม่ทราบชัดเจนว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นวันใด แต่นาทีเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้ป่วยมากที่สุด อยากให้เข้ารับการรักษาก่อน แม้จะไม่สะดวกเข้าโรงพยาบาลหนองคายแล้วก็สามารถเข้ารักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ พร้อมกันนี้ขอวอนก่อนโพสต์สิ่งใดอยากให้สอบถามข้อเท็จจริงจากหน่วยบริการให้ชัดเจน เพราะถ้าเป็นข่าวหรือแชร์ออกไปโดยไม่มีการตรวจสอบ เพราะบั่นทอนกำลังใจของเจ้าหน้าที่ในการรักษาดูแลพยาบาล
ด้าน นพ.พิสิษฐ์ ชี้แจงว่า จากประวัติการรักษานอนโรงพยาบาล 3 ครั้ง พบเรื่องภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเพราอายุมากและภูมิคุ้มกันน้อย มีภาวะต่อมหมวกไตบกพร่องเป็นโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อในตำแหน่งต่าง ๆ ได้ง่ายและรุนแรงกว่าปกติ จึงอยากให้ญาติรีบพาผู้ป่วยมารักษาโดยด่วน ซึ่งผู้ป่วยสามารถใช้สิทธิบัตรทองรักษาได้.-สำนักข่าวไทย