นนทบุรี 7 ธ.ค.-แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์มั่นใจสายพันธุ์ใหม่ 13 สายพันธุ์ตามยุทธศาสตร์ข้าวด้านการวิจัยและพัฒนาจะตอบสนองความต้องการผู้บริโภคทั่วโลกได้แน่ โดยเฉพาะเป็นพันธุ์ข้าวนุ่มตลาดตอบรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าปีนี้ไทยโดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยไม่ส่งประกวดเวทีประชุมข้าวโลกที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งจัดโดยนิตยสาร the rice trader ก็ตาม เชื่อผู้บริโภคข้าว ไทยทั่วโลกเข้าใจดี พร้อมเตรียมแผนเร่งเจาะตลาดข้าวไทยทุกช่องทางให้หนักขึ้น
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าในเวทีประชุมข้าวโลก (2023 International IWRC) ณ เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจัดโดยนิตยสาร the rice trader และได้จัดประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก The World’s Best Rice 2023 ด้วยนั้น ซึ่งในปีนี้ ทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยแจ้งว่า จะไม่ส่งชนิดพันธุ์ข้าวใดๆต่อเวทีการประกวดในปีนี้หรืออาจจะปีต่อๆๆไป เพราะเห็นว่ากลุ่มผู้จัดประกวดในเวทีดังกล่าวช่วงหลังมานี้ ได้กำหนดเกณฑ์การตัดสินดูจะแปลกๆ โดยเฉพาะผู้วิเคราะห์พันธุ์ข้าวกลับเป็นบุคคลที่เป็นเชฟทำอาหารมาเป็นคนตัดสินพันธุ์ข้าว ซึ่งพันธุ์ข้าวแต่ละประเทศควรให้นักวิเคราะห์หรือนักวิจัยสายพันธุ์ข้าวจะดีกว่ากลุ่มนักชิมมาเป็นผู้ตัดสิน ทำให้ผู้ส่งออกข้าวไทยจึงไม่ส่งในเวทีประกาดข้าวโลกในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยจะไม่ส่งพันธุ์ข้าวไทยเข้าประกวดในปีนี้ ไม่ได้หมายความว่าข้าวไทยจะหยุดพัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่ตามไปด้วย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาไทยมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ในด้านการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่องจนขณะนี้ไทยมีสายพันธุ์ข้าวใหม่ขึ้นมาแล้วถึง 13 สายพันธุ์และได้มีการรับรองสายพันธุ์ใหม่ไปแล้วถึง 12 สายพันธุ์ ถือว่าเป็นสายพันธุ์ข้าวนุ่มที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกได้แน่นอน โดยเฉพาะหลังจากนำสายพันธุ์ข้าวนุ่มไปโรดโชว์ตลาดทั่วโลกหลายประเทศมีความสนใจเพิ่มขึ้น ดังนั้น แม้ไทยจะไม่ส่งพันธุ์ข้าวไทยเข้าประกวดข้าวโลก แต่ด้วยรสชาติข้าวไทยเป็นที่รู้จักของชาวโลกอยู่แล้ว การทำตลาดพันธุ์ข้าวนุ่มไทยจะมีโอกาสเข้าไปตลาดทั่วโลกได้ไม่ยาก ซึ่งขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์เตรียมแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะร่วมมือกันเร่งประชาสัมพันธ์ข้าวสายพันธุ์ใหม่ให้เป็นที่รู้จักของชาวโลกได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากดูภาพรวมการส่งออกข้าวของไทยช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 ตั้งแต่(มกราคม – ตุลาคม) มีปริมาณการส่งออกรวม 6,922,649 ตัน ปริมาณข้าวส่งออกขยายตัวร้อยละ 11.4เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 3,967.31 ล้านเหรียญสหรัฐ (136,289.84 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 24.7 ตลาดส่งออกข้าวของไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) อินโดนีเซีย สัดส่วนร้อยละ 13.19 ของมูลค่าการส่งออกข้าวของไทย (2) สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 13.03 (3) แอฟริกาใต้ สัดส่วนร้อยละ 10.47 (4) อิรัก ร้อยละ 9.38 และ (5) จีน ร้อยละ 4.41 ตามลำดับ และคาดว่าในปี 66 ยอดส่งออกข้าวไทยจะเกินกว่า 7.5 ล้านตันได้แน่นอน.-514-สำนักข่าวไทย