ซานฟานซิสโก สหรัฐอเมริกา 15 พ.ย.- นายกฯ เชื่อมั่น บริษัท ยักษ์ใหญ่ของโลก เข้าลงทุนด้าน Data Center ในไทย ยกระดับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ เตรียม สรุปแผนการชวนนักลงทุนต่างชาติในรอบ 3 เดือน แจงประชาชน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 พ.ย.2566 ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยผลหารือกับ ผู้บริหาร Walmart ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย Walmart มีความต้องการที่จะเปิดตลาดในไทยมากขึ้น จึงได้มีการพูดคุยถึงซอฟพาวเวอร์ของไทย ที่เป็นอาหารพื้นเมือง เข้าไปขายใน Walmart รวมทั้งอาหารฮาลาลที่ Walmart ก็ขายอยู่ในหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา
ส่วนการพบปะกับเวสเทิร์น ดิจิทัล ( Western Digital )ซึ่งเป็นผู้ผลิต Hard Disk Drive (HDD) รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต Hard Disk Drive ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทเวสเทิร์น ดิจิทัลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บริษัทเวสเทิร์น ดิจิทัลมีความต้องการลงทุนเพิ่มในไทย และต้องการจะย้ายฐานการผลิตจากประเทศฟิลิปปินส์มาที่ประเทศไทยด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้พูดคุยกับผู้บริหารบริษัท AWS ซึ่งเป็นบริษัทในเครือแอมะซอน ที่ทำคลาวเซอร์วิส ได้เซ็นสัญญาที่จะเข้ามาลงทุนแล้ว และจะเปิดดำเนินการเร็วๆ นี้เป็นดาต้าเซ็นเตอร์ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้มีการลงทุนแล้ว ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่เข้ามาลงทุนและจะลงทุนเพิ่มอีกด้วย
สำหรับการหารือกับ Google นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้มีการลงนามเอ็มโอยูกันเรียบร้อยแล้วที่จะมาทำดาต้าเซ็นเตอร์ เช่นกัน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า บริษัท ยักษ์ใหญ่ของโลก 3 รายที่มาทำดาต้าเซ็นเตอร์ได้แก่ AWS ,Google และ ไมโครซอฟท์ จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยได้รับการให้ได้รับการยอมรับในอนาคตอันใกล้นี้
“การเดินทางมาสหรัฐฯ ครั้งนี้ ถือว่ามีความพอใจ หลายอย่างจากการพบปะภาคเอกชนรายใหญ่ โดยปัจจัย ที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติ เช่น คุณภาพโรงเรียน คุณภาพโรงพยาบาลระดับโลก โดย นักลงทุนต่างพูดว่าเป็นความสบายใจที่จะได้มาใช้ชีวิตที่ไทย ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ไทยสามารถยืนหยัดและแข่งขันได้ในเวทีโลก เป็นความภาคภูมิใจที่เป็นคนไทยและจะทำงานต่อไป” นายเศรษฐา กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งให้ทีมงานสรุปแผนการเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติในรอบ 3 เดือน ว่า นักลงทุนรายใดลงทุนแล้ว ใครอยู่ลำดับไหน ใครเพิ่งจีบกัน หรือใครได้ชวนไปดูหนังแล้ว ทั้งนี้ไม่อยากพูดถึงผลงาน หรือการตัดเกรดการทำงานของตนเอง แต่ขอให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน ส่วนหน้าที่ของตนคือตื่นเช้าไปทำงาน.-สำนักข่าวไทย