กระทรวงยุติธรรม 14 ก.ค.- กระทรวงยุติธรรม ทำหนังสือถึงกรมศุลกากร ช่วยลดหย่อนภาษีให้คนบริจาคเข้ากองทุนยุติธรรม
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ในฐานะประธานกองทุนยุติธรรม กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ทำเรื่องมายังกองทุนยุติธรรม ว่า จากสถิติกองทุนฯที่เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2549-2559 มีผู้มายื่นคำขอรับเงินจากกองทุนฯ รวมกว่า 17,400 ราย จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้วกว่า 430 ล้านบาท เป็น ค่าประกันตัวมากที่สุด รองลงมาคือค่าทนายความ ในจำนวนนี้มีผู้ไม่ผ่านเกณ์ช่วยเหลือประมาณร้อยละ 30 โดยเฉลี่ยแต่ละปีจะมีผู้มาขอความช่วยเหลือประมาณ 2,000 คน แต่ในปีนี้กองทุนเริ่มเป็นที่รู้จักน่าจะมีเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 3,000 คน และจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5 ในปีถัดไป
ทั้งนี้ แต่ละปีกองทุนยุติธรรมจะได้งบประมาณปีละ 200 ล้านบาท แต่จะ มีเงินตาม มาตรา 8 ให้กองทุนมีรายได้จากเงินที่ศาลสั่งบังคับกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ค่าธรรมเนียมศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และค่าปรับตามคําพิพากษาในคดีอาญา ในอัตราไม่เกินร้อยละ 5 ของจํานวนเงินเฉพาะส่วนที่นําส่งคลัง โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
ซึ่งในขณะนี้ทางกองทุนยังไม่ได้รับเงินในส่วนนี้ แต่สถานการณ์การเงินของกองทุนฯในปัจจุบันยังเพียงพอต่อความต้องการ แต่หากมีประชาชนมาร้องขอมากกว่าที่คาดการณ์ไว้อาจเป็นปัญหาในอนาคต
นายธวัชชัย กล่าวด้วยว่า ล่าสุดได้ติดต่อทำหนังสือไปยังกรมสรรพากร เพื่อขอให้เพิ่มข้อเสนอด้วยการใช้มาตรการทางภาษี สร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนที่จะมาร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุนยุติธรรม เพื่อนำเงินบริจาคไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ จากการพูดคุยได้เสนอขอให้นำจำนวนยอดบริจาคเข้ากองทุนลดหย่อนภาษีรายได้สุดธิได้ 2 เท่า เช่น บริจาค 100 บาท สามารถลดหย่อนภาษีได้ 200 บาท ขณะนี้อธิบดีกรมสรรพากรทราบเรื่อง และได้รับหนังสือแล้ว อยู่ระหว่างการประมวลความและพิจารณาว่าจะสามารถดำเนินการตามที่ขอได้มากน้อยเพียงใด เชื่อว่าหากสามารถทำได้ จะทำให้กองทุนมีเงินสามารถนำไปทำกิจกรรมช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมได้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย