นนทบุรี 18 ต.ค. – รมว.พาณิชย์ เยี่ยมกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ติดตามการทำงานตามนโยบาย สั่งลุยขับเคลื่อนการส่งออกเร่งด่วนในช่วง 3 เดือนสุดท้าย รวม 73 กิจกรรม เพิ่มรายได้เข้าประเทศ 12,400 ล้านบาท พร้อมมอบทูตพาณิชย์ ทำงานร่วมพาณิชย์จังหวัด ช่วยผลักดันส่งออกสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน และสินค้า SMEs เพิ่มช่องทางขายออนไลน์ ดันซอฟต์พาวเวอร์
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเดินทางมาตรวจเยี่ยมกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ว่า ได้มารับฟังและติดตามแผนการทำงานตามนโยบายที่ได้มอบหมาย โดยเฉพาะในด้านการผลักดันการส่งออกที่เป็นแผนเร่งด่วน (Quick Win) ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ว่าจะดำเนินการอะไรบ้าง เพื่อผลักดันมูลค่าการส่งออกของไทยให้เพิ่มมากขึ้น และทำให้การส่งออกภาพรวมของไทยในปีนี้ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว สามารถขยายตัวเป็นบวกได้มากที่สุด
ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า การดำเนินงานภาพรวมทั้งปีในด้านการเร่งขยับตัวเลขส่งออก กรมจะเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตร ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยมีกิจกรรมไฮไลท์ ได้แก่ การจัดงาน THAIFEX Anuga Asia/ การจัดกิจกรรม Thai Fruits Golden Month ในเมืองศักยภาพต่างๆ ของจีน นอกจากนี้จะเดินสายสร้างสัมพันธ์ทั่วโลกเพื่อเปิดประตูโอกาสทางการค้าให้ประเทศไทย โดยเร่งจัด โรดโชว์ เยือนตลาดเป้าหมาย และจัดทำ MOU กับเมืองรองต่าง ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งส่งเสริมผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย เชื่อมโยงกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยในส่วนแผน Quick Win ที่จะดำเนินการในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะมีการจัดกิจกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 73 กิจกรรม คาดการณ์เพิ่มมูลค่าการส่งออกได้กว่า 12,400 ล้านบาท โดยกิจกรรมสําคัญในประเทศ อาทิ จัดการเจรจาธุรกิจออนไลน์ (OBM) ในกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหาร BCG ในงาน Agro Fex 2023 ที่ จ.นครราชสีมา สินค้าเครื่องจักรกลการเกษตร ในงาน THAITAM รวมถึงสินค้าศักยภาพกลุ่ม Niche เช่น สินค้าสำหรับแม่และเด็ก สำหรับ Silver generation ตลอดจนอาหารและอุปกรณ์สําหรับสัตว์เลี้ยง ด้านการผลักดันยุทธศาสตร์ซอฟต์ พาวเวอร์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประเทศ สินค้าและบริการของไทยไปยังตลาดต่างประเทศ จะมีการจัดงาน Muay Thai Global Power เพื่อตอกย้ำความเป็นเจ้าของ “มวยไทย” และพัฒนากีฬามวยไทยและสินค้าที่เกี่ยวข้องสู่ Soft power
รวมทั้งการจัดงาน Next Step Export and Cross Border Promotion ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เพื่อแถลง “แผนเร่งรัดการส่งออกและค้าชายแดน Quick Win 100 วันและ 1 ปี” โดยภายในงานจะมีการลงนามความร่วมมือ (MOU ไตรภาคี) ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และการบินไทย ในการเชื่อมโยงมิติด้านการท่องเที่ยว และการส่งออก เพื่อสร้างความต้องการซื้อให้กับผู้บริโภคต่างประเทศ
ส่วนกิจกรรมในต่างประเทศ จะมุ่งจัดกิจกรรมเน้นตลาดศักยภาพ 6 ภูมิภาค คือ ตะวันออกกลางและแอฟริกา, จีนและฮ่องกง, อาเซียน, อเมริกาเหนือและลาตินอเมริกา, เอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย และยุโรป โดยมีกิจกรรมไฮไลต์ ได้แก่ การจัดคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน (Goodwill Mission) เยือนงานแสดงสินค้า China International Import Expo (CIIE 2023) ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน การนําผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ อาทิ Automechanika ดูไบ American Film Market ในสหรัฐฯ Anuga และ Medica ในเยอรมนี และสนับสนุนผู้ประกอบการภายใต้โครงการ SMEs Pro-active เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในภูมิภาคต่างๆ รวม 50 งาน และ 3.จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้า TOP Thai บนแพลตฟอร์ม Shopee ในมาเลเซีย Rakuten ในญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายให้จัดทำเป้าหมายการส่งออกและแผนขับเคลื่อนการส่งออก ปี 2567 ร่วมกับภาคเอกชน ทูตพาณิชย์เพื่อผนึกกำลังเร่งรัดผลักดันการส่งออก รวมถึงเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทูตพาณิชย์กับพาณิชย์จังหวัดเพื่อขยายโอกาสในการส่งออกสินค้าของ SMEs และสินค้าชุมชนผ่านช่องทางหลากหลาย รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ และการจัดโรดโชว์ไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อเปิดตลาดสินค้าและธุรกิจบริการ และการสนับสนุนนโยบาย Soft Power ด้านงานออกแบบ อาหารไทย ภาพยนตร์และเกมส์ แฟชั่น หนังสือ และการท่องเที่ยวคุณภาพสูงด้วย. -สำนักข่าวไทย