‘ภูมิธรรม’ ตรวจเยี่ยม ทอ. เน้นพัฒนากำลังพล-เพิ่มศักยภาพ

กองทัพอากาศ 30 ต.ค. – ‘ภูมิธรรม’ ตรวจเยี่ยม ทอ. เน้นพัฒนากำลังพล เพิ่มศักยภาพรองรับภารกิจที่เปลี่ยน อาทิ การพัฒนาดาวเทียม ย้ำ ดูแลการเกณฑ์ทหาร พร้อมแนะปรับระบบการเกณฑ์ทหาร ให้ผู้ถูกเกณฑ์ อยู่ใกล้ภูมิลำเนาเดิม เพื่อความเหมาะสม ลั่น กองทัพพร้อมอพยพคนไทยในตะวันออกกลางทันทีที่สถานการณ์รุนแรง ยอมรับ ทอ. มีบทบาทในการลำเลียง เข้าใจ C-130 มีจำกัดและเก่า แต่การปรับเพิ่มต้องสอดคล้องกับงบประมาณของประเทศ


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้แก่กองทัพอากาศ ซึ่งเป็นการตรวจเยี่ยมอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้การต้อนรับ

โดยกองทัพอากาศได้จัดให้มีพิธีต้อนรับประกอบด้วย การรับการเคารพจากแถวกองทหารเกียรติยศ พิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ทหารอากาศ การวางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ จอมพล สมเด็จ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ และร่วมลงนามในสมุดเยี่ยม พร้อมทั้งรับมอบเครื่องหมายความสามารถในการบินชั้นกิตติมศักดิ์ จากนั้นร่วมรับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของกองทัพอากาศ ณ ห้องประชุมกองทัพอากาศ


นายภูมิธรรม กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้แก่กองทัพอากาศ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ อย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า ในวันนี้ ได้รับการต้อนรับ และได้รับเกียรติเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับการไปตรวจเยี่ยมเหล่าทัพอื่น และทราบถึงบทบาทของกองทัพอากาศที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามสภาพภัยคุกคามและรูปแบบการสู้รบที่เปลี่ยนไป โดยในอนาคต ยอมรับว่าการพัฒนาด้านอวกาศมีความจำเป็น แต่ในทางกลับกัน อาจส่งผลกระทบต่องบประมาณในการพัฒนาบุคลากรด้วย แต่ทั้งนี้ หากการปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้น สอดคล้องและมีความจำเป็น รวมถึงความชัดเจนต่อภารกิจที่เปลี่ยนแปลงไป รัฐบาลก็พร้อมสนับสนุน แต่ขณะเดียวกัน ในส่วนของกำลังพล หากมีส่วนที่ไม่จำเป็น ก็อาจต้องปรับลดลง สิ่งสำคัญที่สุดคือมุมมองและทัศนคติของกำลังพลต่อการเปลี่ยนแปลง ว่าจะเกิดขึ้น เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและโลก

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ยังได้ชื่นชม บทบาทของกองทัพอากาศในการช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติที่ผ่านมา เช่น การช่วยลำเลียงยุทโธปกรณ์ และกำลังพลเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยยอมรับและเข้าใจข้อจำกัด ว่าเครื่อง C-130 ที่เป็นกำลังหลักในการลำเลียง มีจำนวนจำกัด และอยู่ในสภาพที่เก่า ซึ่งต้องยอมรับว่าประเทศยังคงมีข้อจำกัดในด้านงบประมาณ ซึ่งหากมีงบประมาณเพิ่มขึ้น ก็พร้อมสนับสนุน กองทัพอากาศเพิ่มเติม ทั้งนี้ ในช่วงภัยพิบัติจากอุทกภัยที่จังหวัดเชียงรายที่ผ่านมา กองทัพอากาศยังได้ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมวงโคจรต่ำ นภา 1 และ นภา 2 เข้าไปสนับสนุนให้ข้อมูล สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. และ ศปช. ซึ่งต่อไปจะมีการพัฒนา ดาวเทียมนภา 3 ขึ้นมา เพื่อทดแทนดาวเทียมนภา 1 ที่กำลังจะหมดอายุการใช้งาน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นตัวอย่างในการพิจารณาจากภารกิจ เพื่อสนับสนุนงบประมาณของกองทัพอากาศให้มีความเหมาะสม กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำเช่นเดียวกับเหล่าทัพอื่น ในด้านของการเกณฑ์ทหาร ให้เตรียมความพร้อมและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุต่าง ๆ ขึ้น โดยเฉพาะ ให้ย้ำและตรวจสอบว่าผู้บังคับบัญชา ได้อยู่หน่วยฝึกเพื่อดูแลกำลังพลหรือไม่ หรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูฝึกเท่านั้น นอกจากนี้ในอนาคต อยากให้มีการพัฒนาบทบาทในการเกณฑ์ทหาร ซึ่งขณะนี้บทบาทหลักจะอยู่ที่กองทัพบก ผ่านหน่วยสัสดี โดยสิ่งที่ต้องการเห็น คือการปรับระบบให้ทหารที่ถูกเกณฑ์เข้ามามีความสอดคล้องกับภูมิลำเนาดั้งเดิม เช่น หากเป็นชาวเขาหรือคนที่อยู่ในภาคเหนือ ก็ควรอยู่ในพื้นที่จังหวัดที่อยู่เดิม หรือคนที่อยู่บริเวณชายทะเลก็ควรได้อยู่ในพื้นที่ที่อยู่ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นผลดี ต่อขวัญกำลังใจของกำลังพลด้วย โดยแนวคิดนี้ ตนเองอยากพัฒนาให้เกิดขึ้นจริงได้ ในการเกณฑ์ทหารที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 นี้

พร้อมกันนี้ นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการดูแลประชาชนในพื้นที่วิกฤตการสู้รบ เช่นในพื้นที่ตะวันออกกลางขณะนี้ว่า กองทัพอากาศมีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว โดยยืนยันว่า พร้อมนำเครื่องบินขึ้นไปช่วยเหลือประชาชนได้โดยทันที แต่ยอมรับว่าต้องใช้เวลา เนื่องจากคนไทยที่อยู่ในตะวันออกกลาง ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงาน และอยู่กระจัดกระจายกัน บางส่วนก็ยังไม่อยากเดินทางกลับ จึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ผ่านการประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยืนยันว่า มีแผนรองรับและมีความพร้อม หากสถานการณ์รุนแรง ก็จะดำเนินการอพยพประชาชนไทยกลับมาทันที-313 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ฝนตกหนักบางแห่ง ภาคเหนือ-อีสานตอนบน

กทม. 1 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และอีสานตอนบน ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส […]

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]