6 ต.ค. – ตำรวจเร่งขยายผลจับกุมพ่อค้าขายปืนเถื่อนทางออนไลน์ หลังจับผู้ต้องหา 3 คน ที่ขายปืนและเครื่องกระสุนให้เยาวชนอายุ 14 ปีได้แล้ว แม้เบื้องต้นผู้ต้องหาจะปฏิเสธ แต่ตำรวจยันหลักฐานมัดแน่น พร้อมตรวจสอบสนามยิงปืนปล่อยเด็กอายุไม่ถึงเกณท์เข้าไปยิงปืน
พล.ต.ต.นพศิลป์ พลูสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยผลการสอบสวน 3 ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ให้กับเด็กอายุ 14 ปี โดยพบว่าผู้ก่อเหตุได้ติดต่อซื้อปืนผ่านไลน์ของนายอัครวิชญ์ และโอนเงินซื้อขายผ่านไปยังบัญชีของนายสุวรรณหงษ์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นพ่อลูกกัน ส่วนนายปิยะบุตร เป็นผู้ขายเครื่องกระสุนปืนให้กับผู้ก่อเหตุ แต่ทั้ง 3 คน ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
สำหรับนายอัครวิชญ์ ผู้ต้องหาที่ขายปืนให้กับผู้ก่อเหตุ มีความรู้ทางด้านช่าง ลักลอบขายปืนมาประมาณ 1-2 ปี โดยผู้ก่อเหตุพยายามติดต่อซื้อปืนกับนายอัครวิชญ์ ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม จากหลักฐานการแชทไลน์
ตรวจสอบสนามยิงปืน ปล่อยเด็กอายุไม่ถึงเข้าไปยิง
ส่วนกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ขณะผู้ก่อเหตุซ้อมยิงปืนภายในสนามยิงปืน และมีผู้ปกครองอยู่ด้วยนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนว่าผู้ปกครองได้พาผู้ก่อเหตุไปยิงปืนจริงหรือไม่ รวมทั้ง จะต้องตรวจสอบสนามยิงปืนว่าปล่อยให้เด็กอายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าไปยิงปืนได้อย่างไร
นอกจากนี้ยังต้องขยายผลไปยังกลุ่มที่มาซื้อปืนกับผู้ต้องหาเพื่อดำเนินดคีกับบุคคลอื่นเพิ่มเติม เบื้องต้น 3 คนนี้ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยทั้ง 3 คน ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เร่งขยายผลกวาดล้างผู้ผลิตอาวุธปืนส่งขายออนไลน์
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์ผ่ายรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ เช้าวันนี้ว่า ตำรวจจะยังคงเร่งขยายผลกวาดล้างจับกุมผู้ร่วมผลิตอาวุธปืนส่งขายออนไลน์ รายอื่นๆ รวมไปถึง อาวุธที่มีการขายให้กับผู้อื่นไปแล้วว่าขายให้ใครและมีการนำไปก่อเหตุอื่นหรือไม่ โดยเมื่อวานนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมตำรวจสืบสวนทั่วประเทศ เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน
ลุยค้นบ้านเครือข่ายผลิตปืน โยงแก๊งขายปืนเด็ก 14
ส่วนการขยายผลนำหมายเข้าตรวจค้นบ้านพัก พร้อมจับกุมนายวีระยุทธ์ นทีธร หรือ “โอ ยี่เรือ” ที่รับจ้างผลิตแบลงค์กันขายผ่านออนไลน์ ในซอยประชาอุทิศ 65 ทุ่งครุ ผลการตรวจค้นพบชุดกันเสียง อุปกรณ์ไลฟ์สด และกล่องทดสอบการยิงปืนจำนวนมาก
ข้อมูลสำคัญทำให้ตามจับได้คือ การติดต่อสื่อสารที่เชื่อมโยงกัน ประกอบกับช่วงเกิดเหตุการณ์ที่พารากอน มีการดีดตัวออกจากกลุ่ม รวมถึงยังมีชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เชื่อมโยง 2 พ่อลูกจาก จ.ยะลา ปกติพวกนี้ไม่รู้จักกันจะคุยผ่านโซเชียล แต่ทิ้งร่องรอยให้ จนท.สืบสวน
ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน บชน. ยังยอมรับด้วยว่า ปัจจุบันการซื้อขายปืน และปืนดัดแปลงผ่านออนไลน์ทำได้ง่ายมาก เพราะ พ.ร.บ.อาวุธปืนยังล้าสมัย การขายสิ่งเทียมอาวุธปืน ยังไม่มีกฎหมายควบคุม ซึ่งผู้เกี่ยวข้องต้องมาทบทวนเพื่อยกระดับ
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ สน.ปทุมวันเช้าวันนี้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา เปิดเผยว่าเมื่อคืนพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนานหลายชั่งโมง โดยนายสุวรรณหงษ์ พ่อ และนายอัครวิชญ์ ลูก ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา และวันนี้จะสอบสวนเพิ่ม แต่ยืนยันพนักงานสอบสวนมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดได้อย่างแน่ชัดโดยเฉพาะหลักฐานการโอนเงิน ซึ่งเป็นโอนเงินในเวลาที่สอดคล้องกับการซื้อ-ขายปืนให้กับผู้ต้องหา อายุ 14 ปี ไปใช้ก่อเหตุ
“โอ ยี่เรือ” รับสารภาพดัดแปลงปืน ขายผ่านออนไลน์จริง
สำหรับนายปิยะบุตร ผู้ต้องหาขายกระสุนปืน ในชั้นจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวน นำตัวนายปิยะบุตร ขึ้นไปบนชั้น 2 เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เจ้าตัวยังไม่ได้พูดอะไรกับสื่อมวลชน คาดว่าจะเป็นการสอบปากคำ เพื่อขยายผลการจับกุม เพราะก่อนหน้านี้นายปิยะบุตร ได้ขายเครื่องกระสุนปืนให้กับลูกค้าคนอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยจะมีการหาความเชื่อมโยงว่าลูกค้าคนอื่นๆ ของนายปิยะบุตร ได้นำเครื่องกระสุนปืนไปก่อเหตุร้ายแรงอย่างอื่นหรือไม่
ขณะที่วันพรุ่งนี้ พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งฝากขังต่อศาล พร้อมคัดค้านประกันตัว
มีรายการว่า จากกรณีดังกล่าวชุดสืบสวนตำรวจนครบาล จะขยายผลใน 2 แนวทาง คือขยายผลจากกรณีผู้ต้องหายิงกลางพารากอน ว่ามีการซื้อ-ขายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน เกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม จากที่จับกุมตัวได้แล้ว 3 คน และจะขยายผลจากการขายอาวุธปืน – ลูกกระสุนปืนทางออนไลน์ของผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ทั้ง 3 คน ไปยังบุคคลอื่น. – สำนักข่าวไทย