กรุงเทพฯ 5 ต.ค.- กรมอุทยานฯ ระบุถึงข่าวการพบ “นาก” บนเครื่องบินที่ออกจากสุวรรณภูมิ อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าสัตว์ป่า “นาก” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง อยู่ในสถานะจัดอยู่ในบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญาไซเตส นำเข้า-ส่งออกไม่ได้ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่า ใครเป็นผู้นำขึ้นเครื่องบิน
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชแจ้งถึงข่าวการพบลูก “นาก” บนเครื่องบินของสายการบินเวียตเจ็ตว่า ยังไม่ทราบว่า ไปอยู่บนเครื่องบินได้อย่างไรหรือใครนำขึ้นไป แต่ “นาก” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ซึ่งไม่สามารถครองครองหรือค้าได้ อัตราโทษการกระทำผิดกรณีครอบครอง (เลี้ยง) จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีค้า จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ยังสถานะจัดอยู่ในบัญชีหมายเลข 1 (Appendix 1) ของอนุสัญญาไซเตส ไม่สามารถนำเข้า-ส่งออกได้ โดยมีความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งพบบ่อยขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
“นาก” หรือรู้จักกันในฉายาว่า “ทูตแห่งพื้นที่ชุ่มน้ำ” ทั้งยังเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำตามระบบนิเวศในพื้นที่หลายแห่ง โดยขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรนาก ในไทยพบนาก 4 ชนิด คือ นากเล็กเล็บสั้น นากใหญ่ขนเรียบนากจมูกขน และนากธรรมดา แต่ตัวที่อาจพบได้ในเขตเมืองมี 2 ชนิด คือ นากใหญ่ขนเรียบ นากเล็กเล็บสั้น
สำหรับนิสัยตามธรรมชาติของนาก จะมีความอยากรู้อยากเห็น ว่องไว ตื่นตัวตลอดเวลาและสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความเข้าใจที่ผิดว่า พวกมันมันน่ารักและอยากได้เป็นสัตว์เลี้ยง จนทำให้เกิดการลักลอบค้านากผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งภายในประเทศและส่งออกนอกประเทศ.- สำนักข่าวไทย